Skip to main content
 
 
ระบบ SOTUS นั้นพัฒนาขึ้นมาจากระบบอาวุโสในโรงเรียนกินนอนของประเทศอังกฤษและได้แพร่สู่ประเทศไทยตั้งแต่สมัยราชาธิปไตยที่ได้มีการริเริ่มจัดตั้งสถาบันการศึกษาในระดับต่างๆตามอย่างตะวันตก โดยที่ระบบดังกล่าวนี้ก็ยังคงสืบทอดมาในสถานศึกษาอันเก่าแก่ทั้งหลายแม้จนสถาบันที่ตั้งขึ้นในภายหลังในปัจจุบันก็ตาม คำว่า SOTUS นี้มาจากตัวอักษรนำหน้าของคำ 5 คำในภาษาอังกฤษได้แก่ Seniority (การเคารพต่อผู้อาวุโส), Order ( การปฏิบัติตามระเบียบวินัย), Tradition (การยึดมั่นในประเพณี), Unity (ความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว)และ Spirit (การมีน้ำใจต่อสังคม) ซึ่งเหล่าก็นี้คือวัตถุประสงค์หรือคุณลักษณะอันสำคัญที่คนคนหนึ่งควรจะมีและอาจถือเป็นหน้าที่ของสถาบันการศึกษาที่จะหล่อหลอมและอบรมให้คนเหล่านั้นมีคุณลักษณะดังกล่าวเพื่อที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ร่วมกันได้ในสังคม
 
จะอย่างไรก็ตามในความหมายของ SOTUS ทั้ง 5 ประการจะมีเพียงหลักสำคัญที่ยึดถือปฏิบัติกันอย่างเข้มงวดและล่วงละเมิดไม่ได้เลยอยู่ก็เพียงประการเดียว คือการเคารพต่อผู้อาวุโส (Seniority) โดยที่การเคารพดังกล่าวนี้ก็เป็นการสยบยอมอย่างหวาดกลัวและไม่อาจขัดขืนต่อผู้อาวุโสในสถาบันนั้นๆได้ การกระทำเช่นนี้จึงกลายเป็นก่อให้เกิดระบบอาวุโสขึ้นในสถาบันนั้นๆและระบบ SOTUS ในแบบที่เป็นอยู่ในไทยนั้นก็ได้ถูกตีความไปเกินกว่าสาระที่ควรจะเป็น ดังจะเห็นได้จากกิจกรรมรับน้องตามสถาบันการศึกษาต่างๆที่ปรากฏภาพของความรุนแรงและการกดขี่ต่างๆนานาแม้ว่านั้นจะเป็นเพียงการแสดงอย่างมายาในช่วงระยะเวลาหนึ่งก็ตาม แต่การแสดงที่รุนแรงแบบนั้นจะก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆขึ้นได้ ทั้งยังการสูญเสียที่เกิดขึ้นเป็นประจำอย่างที่ไม่ควรจะเกิดนั้นก็ไม่ได้รับการป้องกันและเยียวยาอย่างรอบด้าน เช่นนี้ก็เรียกได้ว่าระบบอาวุโสและก็กิจกรรมการรับน้องอย่างกดขี่นั้นห่างเหินไปจากความหมายของ SOTUS อย่างที่ไม่อาจเข้ากันได้เลย
 
ในโรงเรียนนั้นแม้ระบบ SOTUS และก็กิจกรรมต่างๆนั้นจะไม่รุนแรงและปฏิบัติกันอย่างกว้างขวางเช่นในระดับอุดมศึกษา แต่การที่ในโรงเรียนยอมรับเอาธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้มาโดยไม่เลือกสรรหรือกลั่นกรองย่อมแสดงให้เห็นถึงความด้อยวุฒิภาวะของโรงเรียนและก็คณะนักเรียนที่ปฏิบัติกิจกรรมเหล่านั้น โดยที่คนเหล่านั้นจะเข้าใจถึงแก่นสาระของระบบ SOTUS มากน้อยเพียงใดหรือเพียงแค่ปฏิบัติตามๆกันโดยคิดว่านั้นเป็นการกระทำที่แสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่ดังที่คนอื่นๆกระทำกัน
 
โดยหลักการแล้วนั่นระบบ SOTUS ควรจะเป็นระบบที่สร้างให้ผู้สำเร็จการศึกษามีบุคลิกภาพและคุณลักษณะที่เหมาะสมและสามารถดำรงชีวิตในสังคมอย่างเป็นที่ยอมรับ จึงกล่าวได้ว่าระบบ SOTUS นั้นเป็นระบบที่ดีและมีคุณค่าที่ดีงามแต่การขยายความไปในทางที่ผิดของไทยทำให้ระบบดังกล่าวนี้แปลเปลี่ยนเป็นโครงสร้างอันอยุติธรรมที่กดขี่ผู้คนไว้อย่างหนึ่ง ดังนั้นจึงเป็นการควรที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะแก่กาลสมัยและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ โดยที่ควรจะลดความถือตัวและการอวดอ้างความอาวุโสนั้นลงกับทั้งสิ่งที่เรียกกันว่าประเพณีทั้งหลายนั้น หากการจะปฏิบัติต้องเป็นที่ขัดเคืองของผู้ปฏิบัติก็ไม่ควรที่จะต้องเคร่งคัดจนเป็นที่ลำบากแก่กัน กิจกรรมและชีวิตความเป็นอยู่ในสถานศึกษาไม่ว่าในระดับใดนั้นควรที่จะเสรีภาพในการปฏิบัติและไม่ปฏิบัติโดยที่ไม่มีผู้อื่นเดือดร้อนอย่างเต็มที่ และกิจกรรมต่างๆนั้นก็ควรที่มีการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและสบายใจแก่ทุกฝ่ายโดยที่ทุกคนควรจะเป็นเพื่อนร่วมสถานศึกษาที่มีไมตรีและเอื้อเฟื่อต่อกันอย่างไม่แบ่งแยกความแตกต่างด้านอายุหรืออื่นใด
 
หมายเหตุ : บความชิ้นนี้เผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท' เมื่อวันที่ 20 เม.ย.58