หลีดเพรียวฟังทางนี้ “สาวไซส์ใหญ่ก็ทำแบบคุณได้” เพียงโอกาสที่เท่าเทียมในสังคม

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมาสองมหาวิทยาลัยใหญ่จัดประเพณีฟุตบอลจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 70 ภายในงานดูคึกคักด้วยขบวนพาเหรดที่น่าสนใจทั้งในประเด็นไอซิสและประเด็นด้านการเมือง และที่เป็นจุดเด่นไม่แพ้กันของงานก็เป็นบรรดาผู้นำเชียร์หุ่นเป๊ะ หน้าตาสวย ความสามารถดีที่มาสร้างสีสันในงานให้มีความครื้นเครงทางมหาวิทยาลัยดังทางใต้ก็ไม่แพ้กันถือฤกษ์สะดวกจัดงานกีฬาประจำมหาวิทยาลัยภายใต้ชื่อ “กีฬาเก้าประสาน” โดยให้คืนนี้เป็นคืนประชันเชียร์และสแตนเชียร์ ว่างๆ “คิดเล็ก คิดน้อย” ก็ได้ลงพื้นที่ไปดูการแสดงก็ติดตาติดใจเชียร์ลีดเดอร์ไซส์ใหญ่ที่กำลังเต้นอยู่ในสนาม อีกทั้งเมื่องานจบยังทางทีมยังคว้าแชมป์มาครองได้อีกด้วย สกู๊ปนี้จึงพาไปรู้จักกับหลีดไซส์ใหญ่และประธานแกนเชียร์ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

เริ่มแรกเราทำความรู้จักกับคนที่เรียกว่าเป็นผู้ให้โอกาสและผู้รับโอกาสกันก่อน

น้องดรีมกับพี่ต้อมในคืนประชันเชียร์กีฬาเก้าประสาน

(พี่ต้อม) “สวัสดีครับ ชื่อนายวิมลศักดิ์ ปราบนอก กำลังศึกษาชั้นปีที่4 วิชาเอกภาษาและวรรณคดีไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และตอนนี้ก็ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมชมรมเชียร์และนันทนาการของมหาวิทยาลัย ครับ เรียกพี่ต้อมก็ได้”

(น้องดรีม) “สวัสดีค่ะ ชื่อน้องดรีม นางสาวสุรัชชา มณีอร่าม กำลังศึกษาชั้นปี1 วิชาเอกภาษาจีน หลักสูตรปกติ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์”

(“คิดเล็ก คิดน้อย”) มีโอกาสได้ไปดูการประกวดผู้นำเชียร์แล้วสะดุดตาน้องในทีมคนหนึ่งมีความแปลกตรงที่ไซส์ของเชียร์หลีดคนหนึ่งคือไม่เหมือนคนอื่นนะ แต่ความสามารถเขาทำได้เหมือนคนอื่นเลยอยากจะชวนคุยเรื่องนี้ เรามาคุยกันเรื่องความเป็นมาเป็นไปกันก่อนว่ามีการคัดตัวผู้นำเชียร์อย่างไร ตั้งมาตรฐานไว้ขนาดไหน แล้วน้องเขาไซส์ขนาดนี้ผ่านการคัดตัวมาได้อย่างไร?

(พี่ต้อม) “เริ่มแรกนะ ก็เริ่มจากสุ่มหาน้องๆในกิจกรรมรับน้องของคณะนี่แหละ ตอนแรกก็โฟกัสไปที่น้องผู้หญิงก่อน เริ่มที่มาตรฐานที่สากลคัดกันทั้งรูปร่างหน้าตา โดยให้ทีมงานขึ้นไปเอาชื่อน้องๆเขามา อยู่ๆก็ได้ฝากประชาสัมพันธ์ว่าน้องคนไหนสนใจจะเป็นสแตนเชียร์ก็ให้ลุกขึ้นออกมาจากกิจกรรมแล้วมาคุยกัน น้องๆก็ลุกมาเยอะแล้วก็มีน้องดรีมมาด้วย ก็ถามไปถามมาว่าสนใจจะเป็นหลีดหรือเปล่า น้องเขาก็ตอบมา เราก็ถามน้องเขาต่อว่าไหวไหม ถ้าไหวใจสู้ก็ลองดู เลยให้น้องเข้ามาในทีม ”

(“คิดเล็ก คิดน้อย”) น้องดรีมตอนนั้นมีความรู้สึกยังไงถึงได้ลุกไปแล้วบอกกับพี่เขาว่าจะเป็นหลีดด้วย มีหวั่นๆบ้างไหมว่าพี่เขาจะไม่เลือกเรา?

(น้องดรีม) “ไม่หวั่น ไม่กลัวด้วย เพราะเชื่อว่าพี่เขาต้องรับเรา เราเคยเต้นหลีดมาแล้ว เพื่อนของพี่เขาเคยมาสอนตอนเรียนม.ปลาย เลยมั่นใจค่ะ”

น้องดรีม เชียร์หลีดเดอร์ไซส์บิ๊กในชุดนักศึกษา

(“คิดเล็ก คิดน้อย”) เมื่อถึงเวลาที่เรียกตัวซ้อมเต้นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาเกี่ยวกับสรีระ น้ำหนักบ้างหรือเปล่า?

(พี่ต้อม) “มีไหม ก็มีบ้าง เพราะคนที่จะเป็นหลีดต้องมีแขนยาวๆเรียวๆ ระดับเดียวกัน เวลาโชว์จะได้ออกมาพร้อมกัน แล้วยิ่งน้องดรีมเป็นคนที่มีไซส์ใหญ่ และไม่ค่อยสูงด้วย เวลาเต้นก็จะติดเนื้อบ้างเพราะน้องตัวใหญ่ เวลาซ้อมก็จะเรียกมาทีละคนนะ แต่กับเขาก็ต้องให้เวลา เพราะใจน้องรักมาก ก็ไม่เคยดุไม่ว่าอะไร เพราะเห็นความพยายามตั้งแต่เริ่มของเขาแล้ว เขาก็เคยถามนะว่าต้องลดน้ำหนักไหม พี่ก็บอกไปว่าก็แล้วแต่นะอันนี้พี่ไม่ว่า ฝึกเยอะๆก็พอ ก่อนซ้อมพี่เรียกน้องๆมาวิ่ง มาวอร์มก่อน เพื่อให้ร่างกายเข้าที่ น้องจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องเจ็บกล้ามเนื้อด้วย”

(“คิดเล็ก คิดน้อย”) น้องดรีมล่ะ คิดว่าความไม่เหมือนคนอื่นของตัวเองเป็นปัญหาหรือเปล่า มีท้อกับการฝึกบ้างไหม มีเพื่อนหรือคนรู้จักมาทักในเรื่องที่เราจะเป็นหลีดบ้างหรือเปล่า  ที่เห็นในสนามนะจะมีท่าเต้นที่เป็นท่าของโคโยตี้ด้วยผลตอบรับเป็นอย่างไรหลังจากจบการประชันเชียร์?

(น้องดรีม) “ เรื่องของความอ้วน น้ำหนักมันก็มีอยู่แล้วนะ แต่ไม่ท้อเลย ใจเรารัก เราทำได้ เราเชื่อในการฝึกซ้อมของเรา แต่ตอนซ้อมก็เกร็งนะ เพราะถ้าผิดจุดหนึ่งทุกอย่างต้องหยุดและเริ่มใหม่หมด กลัวเสียเวลาคนอื่น แต่พยายามที่จะเซฟที่สุด เรื่องที่มีเพื่อนมาทักบ้างไหม อันนี้คิดว่าเราไม่บอกใครดีกว่า ยกเว้นเพื่อนสนิทกันจริงๆ ที่เค้ารู้จักเราเท่านั้นรู้ แต่เวลาดรีมมาซ้อมจะบอกเพื่อนในเมทว่า เราไปซ้อมสแตนนะ (หัวเราะ) เราจะไม่บอกความจริงไง คือด้วยความที่เราอ้วนไง ใครจะเชื่อล่ะ ให้เขาเห็นของจริงดีกว่า ดีไม่ดีถ้าพูดไม่เข้าหู เราอาจเสียความมั่นใจเลยเบี่ยงเบนไปเป็นเรื่องตลกซะมากกว่า แต่หลังจากการประกวดจบนะรู้สึกว่ามีคนทักเยอะ จำได้ บางคนเขาชมเรา แต่เราทำหน้าไม่ถูกไง ยิ้มไปงั้นๆ ไม่อยากเป็นจุดเด่น แต่ดีใจที่เราทำให้เขาเห็นแล้ว ความอ้วนเราไม่ใช่อุปสรรค เรื่องท่าเต้นที่มีท่าโคโยตี้อันนี้พี่ต้อมสอน (หัวเราะ) แต่ละท่าบอกเลยทุกคนมีโห่ทั้งนั้น แต่ประทับใจนะที่คนดูชอบฟังจากเสียงโห่ข้างๆสนาม”

(“คิดเล็ก คิดน้อย”) ต่อด้วยเรื่องของเสื้อผ้า หน้า ผม ความพร้อมและความกล้าและความมั่นใจทั้งในตัวของพี่ต้อมและตัวของน้องดรีมเองในวันลงประชันเชียร์?

(พี่ต้อม) “เสื้อผ้า หน้าผม อันนี้ทีมงานจะดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ของน้องดรีมต้องพิเศษยิ่งกว่า (หัวเราะ) เพราะต้องสั่งตัดไง ถ้าความพร้อม ความมั่นใจอันนี้มีหวั่นบ้างเพราะปีที่แล้วเราครองแชมป์ไง กดดันแต่พยายามที่จะเป็นกันเองกับน้องๆตั้งแต่เริ่มซ้อมแล้ว ไม่เคยสอนให้น้องๆแข่งกับคนอื่นให้แข่งกับตัวเองมากกว่าและพี่ไม่เคยคิดเรื่องไซส์ของน้องเขาด้วย พี่โฟกัสความสามารถและความตั้งใจน้องเขามากกว่านะ เขาก็ทำออกมาได้ดีเหมือนคนอื่นๆที่ไซส์เพรียวๆอีกทั้งยังเป็นที่ประทับใจของคนในนั้นได้ด้วย”

(น้องดรีม) “โอ้ย เรื่องเสื้อพิเศษมาก จะมีพี่คนหนึ่งนะเขาก็อ้วนแต่เล็กกว่าเรา เขาเอาเสื้อที่หลีดไซส์ธรรมดาใส่ตัวเดียวมาใส่สองตัวนะ แต่ของดรีมเพิ่มสองตัวไม่พอต้องเลาะตะเข็บออกอีก ยังตลกตัวเองอยู่เลย”

(“คิดเล็ก คิดน้อย”) มาถามถึงเรื่องความประทับใจในการร่วมงานกันดีกว่าว่าเป็นรู้สึกอย่างไร แล้วตัวพี่ต้อมกับน้องดรีมอยากฝากอะไรถึงคนอ่านบ้าง?

(น้องดรีม) “ดรีมชอบที่ช่วงซ้อมนะ มันมีอะไรที่ตื่นเต้นตลอดเวลา เราได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น ได้สนิทกับพี่ๆมากขึ้น พี่ต้อมจะเข้มมาก ยิ่งช่วงก่อนลงแข่งมันกดดันจนร้องไห้จนถึงช่วงประกาศแชมป์ที่มันดึงความรู้สึกเราทุกคน ให้ฝากถึงคนอ่าน อันนี้ฝากการให้โอกาส การเห็นความสามรถตัวเอง พูดถึงเรื่องหลีดนะ มีคนอยากเป็นเยอะไม่ใช่แค่เรา แต่เขามัวคิดว่าตัวเขาไม่โอเค เขาไม่สวย อ้วน เตี้ย ไม่เหมาะจะเป็น อันนี้อยากให้หยุดคิดและเน้นความตั้งใจ ความฝันของตัวเองเป็นหลัก และต้องขอขอบคุณพี่เขาด้วยที่มั่นใจในความสามารถของดรีม ถ้ามีโอกาสแล้วก็ทำมันให้เต็มที่ อย่าให้มันหลุดมือไป”

(พี่ต้อม) “มันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีนะ ได้รู้จักได้เรียนรู้ การให้โอกาสให้คนที่มีความสามารถได้แสดงศักยภาพของเขาออกมา สามารถปรับจุดธรรมดาให้เป็นจุดเด่นในสายตาคนหมู่มากได้ ได้สร้างความสุขทั้งตัวของทีมงาน ตัวหลีดเอง ตัวผู้ชม รวมทั้งตัวของพี่ด้วยและอยากให้ใครหลายๆคนยิ่งคนรุ่นใหม่ปรับมุมมองอย่ามองแต่รูปลักษณ์ภายนอกให้โฟกัสความสามารถ ความเป็นคนสมัยใหม่และตัวตนของคนที่แท้จริงในสังคมมากขึ้น”

ได้คุยกับพี่ต้อมน้องดรีมแล้ว เรามาฟังความประทับใจของเพื่อนหลีดที่รวมกิจกรรมกับน้องดรีม หลีดสาวไซส์บิ๊กกันบ้าง

(“คิดเล็ก คิดน้อย”) ขอถามเกี่ยวกับการทำกิจกรรมกับน้องดรีม การเต้น การซ้อมหลีดนี่ประทับใจอะไรบ้าง แล้วไซส์ของดรีมมีปัญหากับเพื่อนๆบ้างหรือเปล่า?

(เพื่อนหลีดของน้องดรีม) “สวัสดีครับ ชื่อหนุ่ม ครับ ความประทับใจในการเต้นหลีดกับดรีม ผมว่าดรีมเป็นคนมีความพยายามแล้วใจเขาก็รักการเต้นมาก เรื่องหุ่นไม่เป็นปัญหาเลย เขาไปได้ทันกับเพื่อนคนอื่นนะ แล้วดรีมก็สนิทกับผมมากด้วย เขาช่วยให้กำลังใจผมทุกครั้ง และผมก็ประทับใจมากสำหรับคำให้กำลังใจของเขาเวลาที่ผมท้อครับ ขอบคุณครับ”

ฟังจากบทสัมภาษณ์ของพี่และน้องแกนเชียร์ มอ.รวมถึงเพื่อนที่ได้ร่วมทำกิจกรรมในครั้งนี้แล้ว ทำให้เรามองเห็นการมีความสุขในการทำในสิ่งที่ตนรักมันยิ่งใหญ่และจะยิ่งใหญ่มากถ้าเรารู้จักที่จะหยิบยื่นโอกาสและรับโอกาสจากความสามารถรวมไปถึงการให้กำลังใจกันของคนทุกคน และเช่นกันหากสังคมไทยมีการให้โอกาส ส่งเสริมและมองความต่างเป็นเรื่องที่ปกติ สังคมก็จะมีความสุขและน่าอยู่ยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน