Wed, 02/22/2017 - 14:46
อดีตผู้ต้องขังขาดที่ยืนในสังคม ไม่มีงานทำ ทำให้เสี่ยงกลับเข้าเรือนจำอีก เผยเหตุเพราะมีประวัติอาชญากรรมติดตัวตลอดชีวิต นักวิชาการนิติศาสตร์แนะควรสร้างระบบบัญชีอาชญากรรม 2 บัญชี ช่วยลบประวัติอาชญากรรมในบัญชีเปิดเผย ด้านกรมราชทัณฑ์ต้องจัดการหาที่พักและงานรองรับคนกลุ่มนี้
สังคมไทยในขณะนี้มีผู้กระทำความผิดในกรณีต่างๆ เพิ่มมากขึ้น จนทำให้สังคมมีทัศนะคติต่อผู้ต้องขังว่าบุคคลเหล่านี้ถูกตัดขาดจากสังคม ไม่ยอมรับ เหมือนกับเคยกระทำความผิดไปแล้วไม่สามารถเข้าร่วมสังคมอีกได้ สิทธิต่างๆ ดูลดน้อยลงกว่าคนธรรมดา ส่งผลให้ฐานชีวิตหลังพ้นโทษออกมาไม่ดี เสี่ยงต่อการกลับเข้าสู่เส้นทางเดิมอีก
นายพล (นามสมมติ) เล่าว่าตนนั้นเข้าเรือนจำตอนอายุ 19 ปี ฐานความผิดค้าคดียาเสพติด และพกพาอาวุธ มีโทษประมาณ 2 ปี กว่าๆ เมื่อพ้นโทษออกมา กลับมาใช้ชีวิตประจำวัน โดยการไปสมัครงานหลายๆ แห่งพบปัญหาคือ รายชื่อของตนเองติดประวัติอาชญากรรม เป็นบุคคลที่มีความผิดทางกฎหมายมาก่อน
“ผมจะทำงานที่ดีๆ เหมือนกับคนอื่นไม่ได้ เพราะความผิดที่เคยก่อไว้ เหมือนกีดกันสิทธิของผม ต้องหางานทั่วไปทำไปก่อน ปัจจุบันไปหางานก็รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ อายไม่กล้าทำงาน “
ขณะที่นายตั้ม (นามสมมติ) อดีตพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ไปสังสรรค์กะเพื่อนและอ้างว่าไม่ทราบว่าเพื่อนผสมอะไรลงไปในเครื่องดื่ม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบสารเสพติดทำให้เขาต้องถูกจำคุก 45 วัน ภายหลังพ้นโทษออกมาก็พบว่าสถานประกอบการเดิมให้ออกจากงาน เขาเปิดเผยความรู้สึกว่า
“หลังออกมารู้สึกไม่เหมือนเดิม อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป งานที่ไปสมัครก็ค่อนข้างยาก รอการตอบรับนานมาก เคยคิดนะว่า อาจจะเป็นเพราะเราเคยมีประวัติหรือเปล่าถึงทำให้เป็นแบบนี้”
แม้ปัจจุบันเขาจะได้งานใหม่แล้ว แต่เพื่อนร่วมงานก็ยังมักถามถึงอดีตของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดกับการตอบคำถาม