จากกรณีมีการโพสต์และแชร์ต่อกันในโซเชียลเน็ตเวิร์กภาพเสื้อนักเรียนของโรงเรียนซึ่งมีการปักเกรดผลการเรียนของนักเรียนลงบนเสื้อ บริเวณใต้ตัวย่อสถานศึกษาและชื่อของนักเรียน
ล่าสุดวานนี้(16 เม.ย.58) ‘เดลินิวส์ออนไลน์’ รายงานว่า ได้สอบถามไปยังผู้เผยแพร่ภาพ ซึ่งระบุเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนนาเยียศึกษา รัชมังคลาภิเษก ได้เปิดเผยว่า ทราบจากผู้ปกครองของนักเรียนว่า โรงเรียนดังกล่าว กำหนดให้นักเรียนทุกสายชั้นยกเว้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เข้ามาใหม่ ต้องปักผลการเรียนลงบนเสื้อนักเรียน ในกรณีที่นักเรียนมีผลการเรียนเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป โดยอ้างว่าเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนตั้งใจเรียน ส่วนนักเรียนที่ได้เกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 3.00 ไม่บังคับให้ปัก แต่หากนักเรียนคนใดต้องการไว้ผมยาว สามารถปักเกรดลงบนเสื้อนักเรียนเพื่อแลกกับการไว้ผมยาวได้ โดยมีข้อแม้ว่าในเทอมต่อไปเกรดเฉลี่ยจะต้องเพิ่มขึ้นจากเดิม 0.3% นอกจากนี้ผู้ปกครองยังระบุว่าข้อตกลงนี้เป็นข้อตกลงระหว่างอาจารย์กับนักเรียน โดยปฏิบัติมาได้ 1 ปีการศึกษาแล้ว
ล่าสุด กำจัด กุลโชติ รองผู้อำนวยการฝ่ายปกครอง โรงเรียนนาเยียศึกษา รัชมังคลาภิเษก เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนมีนโยบายดังกล่าวจริง โดยเริ่มปฏิบัติในปีการศึกษา 2557 แต่ทางโรงเรียนไม่ได้บังคับให้เด็กทุกคนปักผลการเรียนเฉลี่ยลงบนเสื้อนักเรียน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตัวนักเรียนเอง อีกทั้งโรงเรียนไม่มีนโยบายลงโทษเด็กด้วยการตี จึงต้องใช้กลยุทธ์ดังกล่าว ซึ่งการปักผลการเรียนนี้ส่งผลให้เด็กนักเรียนตั้งใจเรียนมากขึ้น เห็นได้จากผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ซึ่งในปี 56 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ทำคะแนนอยู่ในลำดับที่ 57 แต่ปี 57 เลื่อนขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 15 ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นจากลำดับที่ 67 มาอยู่ลำดับที่ 53 ซึ่งการที่ผลคะแนนโอเน็ตของโรงเรียนดีขึ้นยังส่งผลไปถึงโควต้าการกู้ยืมเงิน กยศ.ด้วย
ส่วนการปักเกรดแลกกับการไว้ผมยาวของนักเรียนนั้น ความจริงทางเขตพื้นที่การศึกษาได้กำหนดให้นักเรียนไว้ผมยาวอยู่แล้ว เพียงแต่โรงเรียนได้ใช้วิธีการนี้เพื่อกระตุ้นการเรียนให้เด็กสนใจเรียนมากขึ้น ทั้งนี้หากเด็กนักเรียนทำเกรดเฉลี่ยเพิ่มไม่ถึง 0.3 % ก็จะดูประวัติกับประพฤติและอนุโลมให้ได้ เรียกว่าเป็นการส่งเสริมความดีของเด็กไปในตัวด้วย