หลังจากเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ANTI SOTUS’ โพสต์ภาพการรับน้อง โดยระบุว่าเป็นภาพของการรับน้อง ปีการศึกษา 2558 มัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีภาพนักเรียนนอนตากแดดคว่ำหน้าบนพื้นถนน พร้อมระบุด้วยว่า “ถ้าคิดว่ามันคือการสร้างระเบียบก็ไม่ต้องมาเป็นนักเรียน คงต้องไปฝึกเป็นทหารแทน นักเรียนไม่ได้ต้องการสิ่งที่ปลูกฝังเรื่องนี้มากนัก เขาคือผู้มีปัญญา ไม่จำเป็นต้องมา กินข้าวใต้โต๊ะ หรือ กลิ้งเกลือกนอนกับพื้น อะไรเลย”
จากนั้นมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก รวมทั้งภาพดังกล่าวกระจายไปยังเพจต่างๆ อีกหลายเพจ จนมีผู้แสดงตนว่าเป็นนักเรียนและกรรมการนักเรียนโรงเรียนดังกล่าวเข้ามาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้เพจ ‘ANTI SOTUS’ เผยแพร่ภาพกิจกรรมดังกล่าวให้ครบ ซึงในเวลาต่อมาเพจ ‘ANTI SOTUS’ ได้ทำการแชร์ภาพกิจกรรมรับร้องในแง่มุมต่างๆ (อ่านรายละเอียด)
ล่าสุดวันนี้ (11 พ.ค.58) รายการเช้าข่าวชัดโซเชียล ทางไทยรัฐทีวี สัมภาษณ์ นายประดับ แก้วนาม ผอ.โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช โรงเรียนที่มีภาพกิจกรรมรับน้องดังกล่าวยืนยันว่ากิจกรรมรับน้องดังกล่าวมีจริงเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา
“เป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่เราทำกันมาเสมอ เริ่มตั้งแต่สอนนักเรียนปรับพื้นฐาน แล้วก็มีรุ่นพี่เข้าไปช่วยครูดูแล ความประพฤติ ระเบียบแถว สวดมนต์ไหว้พระ ร้องเพลงมาร์ชโรงเรียน สร้างให้เด็กเป็นกัลยาณีนะครับ แล้วคุณครูก็สอนปรับพื้นฐานไปสัก 10 วัน ได้ และน้องก็มีกิจกรรมให้น้องได้สนุกสนาน รุ่นพี่ก็จัดการเรื่องนี้ ภาพที่เห็นเป็นภาพนิดๆ หน่อยๆ ที่ว่าเขาลงโทษนักเรียนมาสาย นักเรียนที่ว่าเขารู้จักกับรุ่นพี่คือบางคนแกล้งทำไม่สนใจอยากให้น้องเขาเห็นว่าถ้าเราทำอย่างนี้จะถูกทำอย่างนี้” ผอ.โรงเรียนฯ กล่าว
ผอ. โรงเรียนฯ ย้ำด้วยว่า ภาพที่ที่เห็นนักเรียนนอนคว่ำกับพื้น นอนใต้โต๊ะ นั้น เป็นบทลงโทษนักเรียนมาสาย นักเรียนไม่ปฏิบัติตาม พร้อมยืนยันด้วยว่ากิจกรรมดังกล่าวมีคุณครูและ ผอ. ก็อยู่ดูแลด้วย และนักเรียนเองก็บอกกับตนว่าสนุก หลังจากนั้นก็ยังมาร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศต่อตามปกติ
“คิดว่ามันต้องมาวิเคราะห์แล้วว่าส่วนไหนถูก ส่วนไหนผิด และเรื่องรับน้องไม่ใช่เป็นของเลวทั้งหมด อย่างกรณีที่โรงเรียนเป็นการวางแผนโดยคุณครู โดยสภานักเรียน โดยรุ่นพี่และกรรมการเครือข่ายที่ดูแลอยู่ น่าจะเป็นโมเดลด้วยซ้ำไปที่มีการดูแลนักเรียนให้รักสถาบันรักการเรียนมีวินัย คนที่วิเคราะห์วิจารณ์ก็น่ามาดูเหตุดูผลดูต้นายปลายเหตุให้ครบถ้วนก่อน ส่วนที่เด็กพูดหยาบๆ ไปบ้าง ก็ตักเตือนได้ เพราะเขาเป็นนักเรียน” ผอ.โรงเรียนฯ กล่าว
พร้อมยืนยันด้วยว่ายังไม่มีผู้ปกครองคนใดมาร้องเรียนจากการรับน้องดังกล่าว โดยจากนี้จะเขียนบทความประเด็นดังกล่าวลงในเว็บไซต์ของทางโรงเรียนเพื่อเปิดให้มีการวิจารณ์อีกด้วย
- 26 views