จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ภาพอำว่าฆ่าแมวของยายข้าวบ้าน แล้วนำกระดูกแมวเพื่อส่งอาจารย์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จนได้ถูกนำไปจัดแสดงโชว์ในพิพิธภัณฑ์ ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณาถึงความเหมาะสมในโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น
ล่าสุดวันนี้ (8 ก.พ.59) สำนักข่าวไทย รายงานว่า นางสุภา หารหนองบัว คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่า นิสิตคนดังกล่าวไม่ได้ฆ่าแมว เพื่อนำโครงกระดูกมาส่งอาจารย์ แต่เป็นการนำซากแมวที่ตายที่บ้านมาส่ง ใช้ประกอบในวิชามิวเซียม คอนเลคชั่น ซึ่งเป็นวิชาอิสระที่นิสิตเลือกลงเรียนตั้งแต่ปี 1 โดยวิชานี้จะสอนเรื่องจริยธรรมในการใช้สัตว์ทดลอง และการเก็บโครงสร้างสัตว์ เพื่อการศึกษาในพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งการทำโครงสร้างกระดูกด้วย ซึ่งปกตินิสิตแต่ละกลุ่มจะได้รับหนู 1 ตัว ในการฝึกทำโครงกระดูกหนู แต่กลุ่มของนิสิตคนนี้ ได้ทำโครงกระดูกหนูเสียหายจึงนำซากแมวที่บ้านมาทดแทน ซึ่งถือว่าไม่ผิด พ.ร.บ.การใช้สัตว์เพื่อทดลองทางวิทยาศาสตร์ แต่ยอมรับว่า การกระทำที่โพสต์ข้อความในลักษณะดังกล่าว เป็นความคึกคะนอง ขาดความยั้งคิด จากการเรียกนิสิตพูดคุยก็สำนึกกับความผิดที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัยก็จะดำเนินคดีทางวินัย เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง
กกอ.ติงภาพบัณฑิตสวมมงกุฎขณะรับปริญญาไม่เหมาะสม
วันเดียวกัน สำนักข่าวไทย ยังรายงานด้วยว่า นายสรนิต ศิลธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวถึงกรณีการเเต่งกายของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา จังหวัดศรีสะเกษ สวมมงกุฎบนศีรษะเข้ารับปริญญาบัตรว่า ตามระเบียบการเเต่งกายเข้ารับปริญญาของเเต่ละมหาวิทยาลัย ยึดตามกฎกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเรื่องปริญญาเเละเครื่องหมายวิทยฐานะ กำหนดให้สวมชุดครุยวิทยฐานะตามรูปเเบบของเเต่ละสถาบันศึกษา เเละเป็นระเบียบเรียบร้อย หากมีเครื่องเเบบที่สวมบนศีรษะ ต้องเป็นหมวกที่กำหนดรูปเเบบชัดเจน การสวมมงกุฎไม่มีในกฎของการเเต่งกายเข้ารับปริญญาบัตร จึงมองว่าไม่เหมาะสม ทั้งนี้ให้ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา รวบรวมหลักฐานและรายละเอียดส่งมาให้พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง
- 5 views