Skip to main content

 

24 พ.ย. 2558 จากกรณีที่ “เครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย” ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา เรื่อง มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร ยืนยันในเสรีภาพที่จะแสวงหาความรู้ในการเรียนการสอน แต่คณาจารย์ที่ร่วมกันแถลงกลับถูกออกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  (รายละเอียดเพิ่มเติม)

ใบปลิวโผล่ ม.บูรพา มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร

เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘กลุ่มลูกชาวบ้าน ม.บูรพา บางแสน’ โพสต์โดยระบุว่า เพจลูกชาวบ้านได้รับรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 23 พ.ย.  ที่ผ่านมา ได้มีการโปรยกระดาษจำนวนหนึ่งบนถนนภายในมหาวิทยาลัยบูรพา โดยข้อความในกระดาษนั้นมีเนื้อหาเน้นให้กำลังใจคณาจารย์ซึ่งถูกเรียกให้ไปรายงานตัวในวันวันนี้(24 พ.ย.58) อีกทั้งข้อความบางข้อความบนกระดาษพยายามชี้ให้เห็นถึง เสรีภาพทางวิชาการในรั้วมหาวิทยาลัย รวมไปถึงมีชื่อของหัวข้อแถลงข่าวในวันนั้นที่ว่า มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร อยู่ในนั้นด้วย โดยข้อความในใบปลิวทั้งหมดประกอบด้วย "มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร!!! หยุดคุกคามอาจารย์-นักวิชาการ" "มหา'ลัยจะมีค่าอะไร ถ้าพูดเรื่องวิชาการในมหา'ลัยไม่ได้" "ห้ามคิด ห้ามพูด ห้ามเขียน แล้วจะเรียนมหาวิทยาลัยไปทำไม" "ขอส่งกำลังใจไปถึงคณาจารย์ ผู้ยืนข้างประชาธิปไตย" "ให้กำลังใจ อ.อรรถจักร์ ศิษย์เก่า มศว.บางแสนและคณาจารย์"

สมัชชาเสรี มช. แจงเหตุที่มหาวิทยาลัยต่างจากค่ายทหาร ขอหยุดดำเนินคดีคณาจารย์

ขณะที่ สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมาถึงกรณีนี้ด้วยว่า ทหารทั้งหลาย ท่านรู้ไหม "ทำไมมหาวิทยาลัยแตกต่างจากค่ายทหาร?"

แถลงการณ์ระบุว่ามหาวิทยาลัยเป็น "พื้นที่" ของการเรียนรู้ การค้นหาคำตอบของคำถามต่อประเด็นต่างๆในสังคมโลกไม่ใช่แค่สังคมไทยเท่านั้น ถ้าท่านคิดว่าการบงการคณาจารย์ให้สอนเนื้อหาเพื่อสอดคล้องกับเป้าหมายรัฐบาลเผด็จการของท่าน ย่อมชี้ให้เห็นชัดว่าท่านไม่มีความเหมาะสมในการเข้ามาบริหารประเทศ ชี้ให้เห็นความจนตรอกในความหวาดกลัวที่ไม่สามารถควบคุมความต้องการประชาธิปไตยของประชาชนได้

การออกหมายเรียกคณาจารย์ ในวันที่ 24 พ.ย. 2558 ให้รับทราบข้อกล่าวหา การทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาของท่านโดยปราศจากการตั้งคำถาม สะท้อนให้เห็นผลผลิตของค่ายทหาร ที่ชอบใช้อำนาจอย่างพร่ำเพรื่อผ่านจินตนาการความสงบสุขในสังคมของท่านเอง

สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ฯ ระบุว่า จึงเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่าทำไมมหาวิทยาลัยจึงแตกต่างจากค่ายทหาร ท่านควรตระหนักสักนิดว่ายุทธวิธีของท่านใช้ได้แค่ค่ายทหารเท่านั้น ต่อให้ท่านพยายามเข้ามาควบคุมให้มหาวิทยาลัยเหมือนค่ายทหาร แต่นักศึกษาและประชาชนก็สามารถหาความรู้ในที่อื่นๆ ได้

สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ฯ ขอยืนยันว่าการออกหมายเรียกคณาจารย์ให้รับทราบข้อกล่าวหานั้น เป็นการกระทำที่ไร้ความยุติธรรม ละเมิดสิทธิในการใช้ชีวิตของประชาชน เรายืนยันที่จะต่อสู้เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ สนับสนุนให้เกิดเสรีภาพทางวิชาการในมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เป็นแค่สถานที่ยัดข้อมูลลงไปในสมองของนักศึกษาและประชาชน ขอให้ทหารยุติการกระทำดังกล่าว และคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ในวันนี้ 24 พ.ย. 58 ทางเครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย 5 คน ได้นัดหมายเข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมกัน ที่ สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ในวันนี้ (24 พ.ย.) เวลา 15.00 น.