Skip to main content

2 พ.ย. 2558 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ที่เริ่มดำเนินการวันนี้ (2 พ.ย.) เป็นวันแรก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งโรงเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครอง เนื่องจากเป็นมิติใหม่ของการศึกษา ที่มีการปรับลดชั่วโมงเรียนบางวิชาให้น้อยลง แต่ไม่กระทบเนื้อหาวิชาหลัก 8 กลุ่มสาระวิชาที่เด็กควรเรียนรู้ และมีความสุขเพิ่มขึ้น

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เข้าร่วมนำร่องในภาคเรียนที่ 2 นี้ จำนวน 3,831 โรง โดยกระทรวงศึกษาธิการจะส่งชุดสมาร์ทเทรนเนอร์ จำนวน 300 ทีม ลงตรวจประเมินผลทั่วประเทศทุกสัปดาห์ ทุกเดือน และทุก 3 เดือน เพื่อนำข้อมูลกลับมาวิเคราะห์ว่า ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด และมีสิ่งใดที่ควรปรับปรุงแก้ไขบ้าง

“นายกรัฐมนตรีพอใจที่ทุกฝ่ายให้การตอบรับเป็นอย่างดี และต้องการให้ขยายจำนวนโรงเรียนให้ครอบคลุมทุกโรงเรียน หากผลประเมินออกมาดี และยังย้ำว่า การเรียนในห้อง เรียกว่าเรียนวิชาการ ส่วนเวลาช่วงบ่าย เรียกว่าเรียนรู้  ซึ่งหมายความว่า นอกจากการเรียนในห้องด้านวิชาการ เพื่อเพิ่มคุณวุฒิแล้ว เราจะต้องเรียนรู้การปฏิบัติควบคู่กับทฤษฎีไปด้วย จะได้ทำงานและจัดระเบียบความคิดให้เป็นระบบ สร้างสรรค์ ความรู้รอบตัวเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในอนาคต”  พล.ต.สรรเสริญ กล่าว  

ที่มา : สำนักข่าวไทย