Skip to main content

คำประกาศความเป็นไทเมื่ออายุ 18 ปี ข้าพเจ้าจะไม่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเกณฑ์ทหารของกองทัพไทย

การปกครองโดยทหารในประเทศไทยได้ครอบงำสังคมไทยมาเป็นเวลาช้านาน ไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้เท่านั้นและอำนาจของมันเพิ่มขึ้นทุกปี แม้ว่ากองทัพไทยคือตัวตลกขบขันของชาวโลกในขณะนี้ก็ตาม

ข้าพเจ้า(เนติวิทย์) คิดว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่พวกเราจะต้องตระหนักรู้ว่า ขณะนี้กองทัพไทยได้พยายามที่จะเพิ่มอำนาจของตนให้มากขึ้นและล้างสมองเหล่าพลเรือน ยกตัวอย่างเช่น รัฐบาลทหารห้ามวิพากษ์วิจารณ์ออกสื่อทีวี, มีการสอบสวนนักวิชาการหัวก้าวหน้าตลอดจนสอบปากคำนักศึกษาที่ออกมาทำกิจกรรมทางการเมือง รัฐบาลทหารควบคุมตำราเรียนและส่งเสริมความเป็นชาตินิยมให้สยบยอมต่อกองทัพ พวกเรารู้ดีว่ารัฐบาลทหารพยายามสร้างประเทศไทย ให้กลายเป็นรัฐที่ปกครองโดยทหาร ซึ่งพวกเขาได้เคยทำมาแล้วในก่อนหน้าและกำลังทำอยู่ในขณะนี้อีกครั้ง

 เราต้องการที่จะจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้หรือไม่ หรือเราจะเลือกมุดหัวดำดินทำเป็นไม่สนใจอะไร ปล่อยมันไปละหรือ ถ้าท่านเลือกจัดการกับสถานการณ์ เราควรจะมาร่วมมือกัน นี่คือยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง

สำหรับข้าพเจ้า เราควรที่จะต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น และขับเคลื่อนนำประเทศไทยหรือสยามประเทศให้เป็นไปในทางประชาธิปไตยและเคารพสิทธิมนุษยชน เราควรจะสนับสนุนเยาวชนไทยของเรา ให้พวกเขาปฏิเสธการเกณฑ์ทหาร

การเกณฑ์ทหารเป็นเรื่องที่ล้าสมัย หลายประเทศทั่วโลกได้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารไปแล้ว หรือมีการเปลี่ยนแปลงระบบการเกณฑ์ทหารเป็นระบบสมัครใจ พวกเขาได้เรียนรู้ว่าความเต็มใจที่จะเป็นทหารนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าการบังคับ อนึ่งพึงตราว่า ระบบทหารเป็นการปลูกฝังความรุนแรงและให้ปฏิบัติตามผู้นำโดยปราศจากความคิดของตัวเอง ระบบนี้เปรียบประหนึ่งดังสัญลักษณ์ของความรุนแรงที่ไม่มีเหตุผลและต่อต้านความเป็นประชาธิปไตย

เรารู้ว่าใครที่ไม่อยากเป็นทหารเกณฑ์นั้น สามารถเป็นนักศึกษาวิชาทหาร (รด.)ได้ โดยเข้ารับการฝึกฝนการป้องกันและรักษาดินแดนเป็นเวลา 3 ปี บางคนครอบครัวมีอันจะกิน มีเงินมากพอที่จะจ่ายเงินใต้โต๊ะก็ได้ คำถามคือ ทำไมพวกเราถึงไม่สามารถมีสิทธิในการปฏิเสธระบบเกณฑ์ทหารอันล้าสมัยนี้? เหตุใดพวกเราถึงเป็นผู้สนับสนุนสันติภาพ และเกลียดชังสงคราม ตลอดจนมีศักยภาพในการช่วยเหลือสังคมผ่านวิธีการที่ปราศจากความรุนแรงไม่ปฏิเสธระบบที่เป็นอยู่นี้ โปรดอย่าลืมว่าเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลก และการไม่ใช้ความรุนแรงสามารถสร้างสังคมให้ดีได้กว่าการสงคราม หรือไม่จริง

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ในความคิดของข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าอายุ 16 ปีและจดบัดนี้ก็ตาม ข้าพเจ้าอายุได้ 18 ปีบริบูรณ์

แม้ว่าข้าพเจ้าจะเกิดในครอบครัวชาวพุทธ แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถที่จะพูดได้เต็มปากว่าผมเป็นชาวพุทธ ในประเทศแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชน ข้าพเจ้าควรจะพูดได้แค่ว่า ข้าพเจ้าเป็นบุคคลแห่งมโนธรรมสำนึก ผู้มีคติธรรมในใจ ข้าพเจ้าต้องการที่จะประกาศความตั้งใจของข้าพเจ้าเพื่อดินแดนแห่งสันติภาพบนประเทศแห่งนี้ที่ไม่อนุญาตให้คนมีเสรีภาพในการพูดก็ตาม

ทุกคนเป็นเพื่อนมนุษย์และข้าพเจ้าไม่ได้ต้องการฆ่าเพื่อนมนุษย์

ข้าพเจ้าจะเป็น ผู้ปฏิเสธการเกณฑ์ด้วยเหตุผลทางมโนธรรม (Conscientious Objector) เมื่อข้าพเจ้ามีอายุในการข้อบังคับเข้ารับราชการเกณฑ์ทหารของกองทัพ

ข้าพเจ้าจะไม่เป็นทหารในกองทัพไทยหรือกองทัพแห่งความรุนแรงใดๆ

ด้วยความเคารพ

เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล

นักเรียนไทยและ สามัญชนพลเมืองโลก

ป.ล. เราต้องการสันติภาพและประชาธิปไตย หากท่านสนใจร่วมทางเดินกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องการที่จะเชิญชวนให้ท่านเป็นผู้ปฏิเสธการเกณฑ์ทหารด้วยเหตุผลทางมโนธรรม

 

หมายเหตุ : แถลงการณ์ฉบับนี้จัดทำขึ้นเมื่อ 10 กันยายน 2557 ขณะอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ประกาศไว้ ณ องค์กรต่อต้านสงครามนานาชาติ (War Resister’ International) ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

ตีพิมพ์ลงในหนังสือ คำประกาศความเป็นไทในโรงเรียน โดยเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ฉบับพิมพ์ครั้งที่2 (พ.ศ.2557) และตีพิมพ์ฉบับภาษาอังกฤษใน seeds of peace 2015