22 พ.ค. 2558 เว็บไซต์ประชาไท รายงาน กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม นำตัวกรรมการศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (Young People for Social-Democracy Movement,Thailand - YPD.) และวิทยากรงานเสวนา หัวข้อ "22-22 : สิทธิชุมชน เสรีภาพ การศึกษา" ซึ่ง YPD จัดขึ้นในวาระครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร รวม 11 คน ไปที่ สน.ชนะสงคราม
ธัชพงศ์ แกดำ กรรมการ YPD ให้สัมภาษณ์ประชาไทเมื่อเวลา 14.13 น. ว่า ล่าสุด ตร.ปล่อยตัวแล้ว หลังควบคุมตัวอยู่ราว 30 นาทีโดยไม่มีการตั้งข้อหาแต่อย่างใด
ธัชพงศ์ ระบุว่า เดิม ทางกลุ่มได้ประสานงานกับอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว เพื่อขอจัดงานเสวนา "22-22 : สิทธิชุมชน เสรีภาพ การศึกษา" ในวาระครบรอบ 1 ปี รัฐประหารในช่วงบ่ายวันนี้ไว้แล้ว ต่อมา เมื่อช่วงสายวันนี้ เจ้าหน้าที่อนุสรณ์สถานฯ โทรแจ้งว่า ทหารขอให้ปิดสำนักงาน พวกตนจึงย้ายมาจัดที่หน้าฟุตบาทแทน ซึ่งหลังทางกลุ่มฯ อ่านแถลงการณ์ "1 ปี รัฐ(ประ)(ท)หารอันอัปยศ" และเริ่มเกริ่นได้เพียงเล็กน้อย ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไป สน.ชนะสงคราม โดยแจ้งว่า มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป ขัดมาตรา 44 อย่างไรก็ตาม หลังเดินทางไป สน. มีการสอบถามชื่อ ก่อนจะปล่อยตัวโดยไม่มีการแจ้งข้อหาหรือลงบันทึกประจำวัน
ธัชพงศ์ กล่าวยืนยันว่า จะจัดงานต่อไป โดยอาจเป็นรูปแบบอื่นๆ เช่น เผยแพร่ทางยูทูบ พร้อมระบุว่า จำเป็นต้องพูดให้สังคมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังรัฐประหารเมื่อปีที่แล้ว ทั้งเรื่องสิทธิชุมชนที่ชาวบ้านโดนไล่ที่ และการศึกษาที่มีการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบพร้อมๆ กันหลายแห่ง ทั้งที่ในภาวะปกติแล้วเรื่องแบบนี้จะทำไม่ได้
แถลงการณ์
ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย
(Young People for Social-Democracy Movement, Thailand (YPD.)
1 ปี รัฐ(ประ)(ท)หารอันอัปยศ
หนึ่งปีมาแล้วศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย(YPD.) ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง“คัดค้านรัฐประหาร ต่อต้านการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตย” ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เพื่อแสดงจุดยืน “ ต่อต้านการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตย” โดยขอเรียกร้องให้มีการคืนอำนาจอธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชนโดยเร็ว เพราะการรัฐประหารเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นที่จะทำลายสังคมประชาธิปไตยในระยะยาว ทั้งนี้ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD.)และเพื่อนเครือข่ายนักศึกษาทั้งในไทยและต่างประเทศได้เฝ้าระวังและจับตา ติดตาม ตรวจสอบ รวมถึงเคลื่อนไหวคัดค้านการใช้อำนาจของ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ทางศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD.) จึงขอประณามพฤติกรรมการใช้อำนาจของ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ดังต่อไปนื้
1. แต่งตั้งทหารและบริวารพวกพ้องมาดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆและกระทำการโดยไม่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติและประชาชน จากข้อเท็จจริงที่มีการแต่งตั้งข้าราชการทหารจำนวนมากเป็นรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรัฐประหารก็ได้รับเลือกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ตนแต่งตั้ง มาเลือกตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งมีการตั้งคนในครอบครัวเป็นผู้ช่วยผู้ปฏิบัติงานด้านนิติบัญญัติทั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฎิรูปแห่งชาติ ซ้ำร้ายเหล่าผู้ปล้นอำนาจเหล่านี้ยังไม่เคยแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะชนเลยตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
2.สภานิติบัญญัติที่ตั้งขึ้นโดยอำนาจของคณะรัฐประหารออกกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและไม่ได้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชน จากข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น
-กรณีร่างพระราชบัญญัติการประมง ที่ชาวประมงขนาดเล็กเสียผลประโยชน์ เนื่องการรับฟังความเห็นและการมีส่วนร่วมของชาวประมงพื้นบ้านก็น้อยเกินไป
-กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติแร่ ทั้งที่เครือข่ายได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ได้ออกมาคัดค้าน
-กรณีศูนย์ประสานงานการศึกษาเภสัชศาสตร์แห่งประเทศไทย (ศ.ศ.ภ.ท.) ยืนหนังสือพร้อมรายชื่อผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่
-กรณีเครือข่ายประกันสังคมเพื่อคนทำงาน 14 องค์กร เรียกร้องชะลอลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม
-กรณีร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะเนื่องจากเนื้อหาบางมาตราลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบของประชาชน และไม่เป็นไปตามมาตรฐานกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เป็นต้น
3.ลิดรอน เสรีภาพ อิสรภาพ การแสดงออกของประชาชน สื่อมวลชน และ ละเมิดสิทธิชุมชน ปรากฎมีการใช้คำสั่งห้ามจัดการเสวนาทางวิชาการ การพูดในที่สาธารณะมากมาย รวมทั้งมีการใช้คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติในการเรียกประชาชนไปปรับทัศนคติ ดำเนินการจับกุม และดำเนินคดีในศาลทหาร ออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 64/2557โดยอ้างการปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า พร้อมด้วยคำสั่งที่66/2557 ที่กล่าวว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นการละเมิดสิทธิชุมชน ละเมิดสิทธิการทำมาหากินของชาวบ้านคนยากคนจนไปทั่วทั้งประเทศ เกิดการเข้าตัดฟันและทำลายพืชผลอาสินของชาวบ้านคนจน มากกว่าจะปราบปรามนายทุนซึ่งเป็นผู้บุกรุกทำลายป่าตัวจริง
4.แปรรูประบบการศึกษาอย่างน่าไม่อายโดยปรากฎข้อเท็จจริงคือ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. .... คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสวนดุสิต พ.ศ. .... คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. .... คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. .... คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ และรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยมีสมาชิกสภานิติบัญญัติหลายท่านที่เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการแปรรูปนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบเป็นนั่งผู้พิจารณาอยู่ด้วย
5.รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังร่างภายใต้อำนาจรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีหลายมาตราในร่างที่เป็นข้อกังขา ว่าจะลดทอนอำนาจของประชาชน ยุบรวมองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน อีกทั้งยังไม่แน่นอนว่าจะมีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่
การขับเคลื่อนและรักษาระบอบประชาธิปไตย ยกระดับคุณภาพของประชาธิปไตย สร้างพลเมืองที่มีจิตสำนึกในระบอบประชาธิปไตยนั้นแน่นอนว่าไม่ได้เกิดขึ้นจากคณะผู้ปกครองคณะใดคณะหนึ่ง ฝ่ายใดฝ่านหนึ่ง หากแต่เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจก็เช่นกัน ที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากประชาชนที่ทุกกลุ่มที่ร่วมกันเข้ามาปกป้องสิทธิทางเศรษฐกิจของตนเอง และใช้กระบวนการประชาธิปไตยในการจัดสรรแบ่งปันผลประโยชน์
“เราจะสร้างสังคมประชาธิปไตยไม่ได้เลย หากขาด สิทธิเสรีภาพ อิสรภาพ ความยุติธรรม และความสมานฉันท์ ที่สำคัญพวกเราเชื่อมั่นว่า ความสงบสุขของสังคมมิได้เกิดจาก การไม่มีการต่อต้าน หากแต่ความสงบสุขของสังคมเกิดจาก ความเท่าเทียม ความยุติธรรมทั้งทางอำนาจเศรษฐกิจและการเมือง”
เพื่อประชาธิปไตยและความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ
ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย(YPD.)
22 พฤษภาคม 2558
- 1 view