27 มี.ค.2558 มติชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธาน โดยที่ประชุมได้พิจาณาเรื่องด่วน ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ.โดยมีสาระสำคัญคือ ในมาตรา 36 พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ให้สถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาเป็นนิติบุคคลเพื่อให้ดำเนินกิจการโดยอิสระ สามารถพัฒนาระบบบริหารและจัดการที่เป็นของตนเอง มีความคล่องตัว มีเสรีภาพทางวิชาการ และอยู่ภายใต้การดูแลของสภาสถานศึกษา เพื่อให้สามารถระดมทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนมาร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มศักยภาพทางวิชาการ สมควรรวมมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ มาจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เพื่อร่วมผลิตบัณฑิตให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและท้องถิ่นของจังหวัดกาฬสินธุ์และพื้นที่ใกล้เคียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกสนช.ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว แต่ตั้งข้อสังเกตว่าการเปิดสาขาวิชาจะต้องตอบสนองความต้องการของท้องถิ่น และพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ใช่เพื่อแข่งขันกับมหาวิทยาลัยอื่นที่เกิดขึ้นมานานแล้วและได้รับความนิยมมากกว่า นอจากนี้มหาวิทยาลัยจะต้องมีความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์การเรียนการสอนเพื่อตอบสนองให้นักศึกษาได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพภายหลังที่ประชุมได้มีมติรับหลักการวาระแรกด้วยคะแนน 156 ต่อ 1 งดออกเสียง 2 ตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาจำนวน 15 คน
ต่อมา ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.ที่มีเนื้อหานำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยสวนดุสิต พ..ศ..... ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ... ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.... และ ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ....
โดย นายกฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ชี้แจงว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม โดยส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยของรัฐพัฒนาไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการที่เป็นอิสระและมีความคล่องตัว สามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น มีความเป็นอิสระ สามารถพัฒนาระบบบริหารและมีความเป็นเลิศทางวิชาการ สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุน โดยเฉพาะสมาชิกที่มาจากสายอธิการบดีมหาวิทยาลัย อาทิ นายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีม.ศรีนครินทรวิโรฒ (มศว. ) ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (นิด้า ) นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน ประธานสภาคณาจารย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)นางสุมณฑา พรหมบุญ อดีตอธิการบดี มศว. โดยระบุว่า ขอบคุณรัฐบาลที่กล้าหาญในการเสนอร่างพ.ร.บ.ทั้ง 4 แห่งเข้าสู่การพิจารณาของสนช.หากเป็นภาวะปกติ นักการเมืองก็จะห่วงฐานเสียงตนเอง จึงไม่ได้ลำดับความสำคัญในเรื่องนี้เป็นลำดับต้นๆ สิ่งทีเป็นกังวลว่า มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐหรือที่เรียกกันติดปากว่า ม.นอกระบบนั้นจะทำให้ค่าเล่าเรียนสูงขึ้นนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะดูจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่ออกนอกระบบไปแล้วค่าเล่าเรียนก็เท่ากับมหาวิทยาลัยของรัฐ เป็นที่ประจักษ์แล้วจึงไม่น่ากังวลอะไร
ส่วนงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรก็เท่ากันเช่นกันไม่มากกว่าหรือน้อยกว่า จึงสามารถดูแลนักศึกษาได้อย่างเท่าเทียมกัน เพียงแต่แตกต่างกันที่การบริหารงานที่มีความคล่องตัวสูง มีประสิทธิภาพ มีความเป็นอิสระมากขึ้นอีก รวมทั้งจะได้คนดีคนเก่งเข้ามาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตามร่างพ.ร.บ.นี้ไม่ได้หมายความว่า เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแต่ยังคงเป็นมหาวิทยาลัยของที่ต้องได้รับการตรวจสอบเช่นเดียวกัน
ด้านนายกฤษณพงศ์ กล่าวว่า พร้อมรับข้อเสนอแนะและข้อสังเกตของสมาชิกไปพิจารณา ทั้งนี้คำถามที่เป็นข้อข้องใจของนักศึกษาก็มาในลักษณะนี้ 20 ปีแล้ว ซึ่งก็ให้สกอ.ได้ศึกษาเชิงระบบ แต่เรื่องค่าใช้จ่ายไม่แตกต่างไปจากมหาวิทยาลัยสังกัดราชการศึกษา ส่วนเสรีภาพทางวิชาการยืนยันว่าไม่น้อยกว่าเดิมทั้งในด้านการศึกษาและงานวิจัย สำหรับความรับผิดชอบแม้จะมีอิสระในการดูแลตัวเอง ความรับผิดชอบก็จะเพิ่มขึ้น
จากนั้น ที่ประชุมได้มีมติรับหลักการในวาระแรกทั้ง 4 ฉบับ พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 15 คน 4 คณะขึ้นมาเพื่อพิจารณาต่อไป
ภาพจากกลุ่มเสรีนนทรี ม.เกษตรศาสตร์
นศ. บุกสภาวอน "หยุดพิจารณาร่าง ฟังพวกเราก่อน"
ก่อนหน้านั้น เวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา วันเดียวกัน(26 มี.ค.) นักข่าวพลเมือง ThaiPBS กลุ่มแนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ซึ่งประกอบด้วย นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ร่วมกันยื่นหนังสือคัดการพิจาณาร่าง พ.ร.บ. ม.นอกระบบ ที่หน้ารัฐสภา และอ่านคำประกาศคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ
มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า เจตน์สฤษดิ์ นามโคตร นักศึกษาม.ขอนแก่น กล่าวว่าร่างพ.ร.บ.เหล่านี้ เคยถูกนักศึกษาคัดค้านสำเร็จแล้ว ในบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตย แต่สมาชิกสนช.ที่เป็นอธิการบดีและผู้บริหารมหาวิทยาลัย ได้แก่ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีม.ธรรมศาสตร์ นายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีม.ขอนแก่น นายวุฒิชัย กปิลกาญจน์ อดีตอธิการบดีม.เกษตรศาสตร์ นายนรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีม.ศรีนครินทรวิโรฒ ก็อาศัยช่องทางผ่านอำนาจพิเศษเข้าไปนั่งในสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แล้วทำการผลักดัน ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนอกระบบที่ร่างกันขึ้นมาเองอีกครั้งอย่างไม่สง่าผ่าเผย
หลังจากยื่นหนังสือ ทางกลุ่มแนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ได้เผาพวงหรีดที่เขียนคำว่า ม.นอกระบบ เพื่อไว้อาลัยให้แก่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ม.นอกระบบ ของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และได้ร่วมกันตะโกนคำว่า "หยุดพิจารณาร่าง ฟังพวกเราก่อน"
ภาพจาก ดอกก้านของ บนผืนดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ คอยสังเกตการณ์และถ่ายรูป นักศึกษาที่เข้ายื่นหนังสือคัดค้านด้วย นอกจากนี้ แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านมหาวิทยาลัยนอกระบบ ก็ได้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการจุดไฟเผา ป้ายและพวงหรีดที่มีข้อความว่า ‘ม.นอกระบบ’ เพื่อแสดงออกว่าไม่เห็นด้วย และไว้อาลัยให้แก่ สมาชิกสนช.สายอธิการบดีหลายมหาวิทยาลัยที่ผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้
คำประกาศ แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านมหาวิทยาลัยนอกระบบ จากการที่บ้านเมืองอยู่ในสภาวะไม่ปกติ ไม่มีบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตย ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ เสรีภาพขั้นพื้นฐาน แม้แต่การแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลก็ถูกจำกัด การมีส่วนร่วมของประชาชนถูกจำกัด การเคลื่อนไหวต่างๆ ของภาคประชาชนถูกจำกัด ประเทศไทยกำลังถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการ เช่นเดียวกับในมหาวิทยาลัย พวกเราในนาม “แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านมหาวิทยาลัยนอกระบบ” ได้ติดตามสถานการณ์การนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบมาโดยตลอด ปรากฏว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ กำลังจะถูกพิจารณาโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมีอธิการบดีของมหาวิทยาลัยต่างๆ อยู่ในตำแหน่งสนช.ด้วย คือ นายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น นายวุฒิชัย กปิลกาญจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายนรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หมายความว่า สมาชิกสนช.เหล่านี้ กำลังจะอนุมัติร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนอกระบบที่ตนเองเคยร่างมาในตำแหน่งอธิการบดี ซึ่งเป็นร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนอกระบบที่พวกเราเคยคัดค้านสำเร็จในบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตย เนื่องจากในขณะนั้นประชาคมในมหาวิทยาลัยยังไม่มีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงแท้จริง และถูกถอนกลับมาพิจารณาใหม่ แต่อธิการบดีต่างๆ ก็อาศัยช่องทางอำนาจพิเศษเข้าไปนั่งในสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และเสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนอกระบบอีกครั้งด้วยความไม่สง่าผ่าเผย และขาดการมีส่วนร่วมของนิสิต นักศึกษา ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียเหมือนเดิม และแสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสตั้งแต่กระบวนการประชาคมภายในมหาวิทยาลัย ทำให้พวกเรากังวลอย่างยิ่งว่าเมื่อออกนอกระบบไปแล้ว จะไม่สามารถตรวจสอบการบริหารงานของสภามหาวิทยาลัยได้ หรือสามารถรับรองความชอบธรรมของสภามหาวิทยาลัยได้ ดังนั้น พวกเราจึงขอเรียกร้องให้ประธานสภาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยกเลิกการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนอกระบบทั้งหมดในขณะนี้ และนำร่างดังกล่าวกลับมาพิจารณาใหม่โดยการมีส่วนร่วมของนิสิต นักศึกษา และประชาชนผู้มีส่วนได้เสียให้ทั่วถึงอย่างแท้จริง |
ด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการออกแถลงการณ์ร่วม สภานักศึกษา ศูนย์รังสิต องค์การนักศึกษา และภาคีเครือข่าย ออกแถลงการณ์ท่าทีต่อการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- 3 views