Skip to main content

22 ก.พ.2558 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหนังสือถึงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้กรมพลศึกษาทำแผนย้ายกรมพลศึกษาออกจากพื้นที่จุฬาฯ ภายใน 5 ปี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ส่งหนังสือให้กรมพละดำเนินการทำแผนดังกล่าว แต่นายพัฒนาชาติ กฤดิบวร อธิบดีกรมพลศึกษา ยืนยันไม่สามารถทำได้

เนื่องจากเดิมกรมพลศึกษาประสานขอ ซื้อ เช่า ใช้ พื้นที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ แต่ปัจจุบันกรมธนารักษ์ยังไม่มีหนังสือตอบกลับมาว่าจะให้ใช้พื้นที่ส่วนไหน กรมพละศึกษาจึงไม่สามารถวางสถานที่ตั้งในอนาคตอีก 5 ปีได้

ดร.พัฒนาชาติ กฤดิบวร อธิบดีกรมพลศึกษา เผยว่า เดิมประเทศไทย โดยคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เคยเตรียมแผนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ทั้งกำหนดสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ทันสมัย ที่ อ.บางปิ้ง จ.สมุทรปราการ ซึ่งจะใช้เป็นสนามกีฬาแห่งชาติแห่งใหม่ ทั้งยังวางแผนย้ายกรมพลศึกษาไปอยู่ที่จุดนั้น แต่สถานการณ์เปลี่ยนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ต้องหยุดชะงัก ดังนั้นการจะย้ายกรมพละศึกษาไป อ.บางปิ้งจึงต้องพับแผนไปด้วย

"เมื่อไม่มีสถานที่จะให้กรมพลศึกษาย้ายไป แผนการย้ายในอนาคตจึงทำไม่ได้ หากต้องย้ายคงต้องกลับไปถามกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาว่า จะหาพื้นที่ให้เราย้ายไปที่ไหน ส่วนต้องรอมติคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับ รมว.กีฬาจะเป็นผู้ดำเนินการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม." ดร.พัฒนาชาติ กล่าว

ดร.พัฒนาชาติ เผยต่อว่า เราเช่าพื้นที่จุฬาฯปีละ 115 ล้านบาท ส่วนปีไหนจะขึ้นค่าเช่าขอให้แจ้งล้วงหน้า เราต้องเสนอของบประมาณจากรัฐบาลแบบปีต่อปี สำหรับปัญหากรมพละคือ จุฬาเอาที่คืนไปแล้วหลายส่วน ปัจจุบันเหลือเพียง อาคารนิมิตบุตร สระว่ายน้ำ สนามเทพหัสดิน สนามศุภชลาศัย ส่วนสนามจินดารักษ์ ที่ใช้เตะบอลเด็ก และอาคารจันทรยิ่งยง จุฬาฯยึดคืนไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถจัดแข่งขันกีฬานักเรียนได้อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ปี แล้ว ทั้งวอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล ตะกร้อ แบดมินตัน ส่งผลกระทบระดับนักเรียนนักศึกษา หลายๆสถาบันถึงกับบ่น โดยเฉพาะนักเรียนไม่ได้แข่งขันมีอาการอึดอัดใจ ไม่ได้แสดงฝีมือ การพัฒนากีฬาระดับนักเรียนไม่ต่อเนื่องกระทบหลายด้าน ซึ่งการที่จะให้กรมพลศึกษาไปหาสถานที่แข่งใหม่ก็ไม่สะดวกเหมือนที่เดิม"

 

เรียบเรียงจาก Voice TV และ ผู้จัดการออนไลน์