นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ฯ สาขาวิชา พัฒนาสังคม ม.สงขลานครินทร์ ปัตตานี จัดรับน้องใหม่ผ่านการแข่งกีฬาสีภายในเพื่อสานสัมพันธ์พี่และน้อง ผลตามคาดทั้งพี่และน้องรู้สึกภูมิใจและมีความสุขในกิจกรรมครั้งนี้ ดีกว่าการว๊าก-ตะคอก-การกดขี่ ต่างๆ
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาสาขาวิชาพัฒนาสังคม สังกัดคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้จัดกิจกรรมกีฬาสีภายในสาขาวิชาเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องอีกทั้งยังเป็นการต้อนรับน้องใหม่ชั้นปีที่1 ของสาขาวิชาอีกด้วย
(ภาพบรรยากาศเดินพาเหรด)
โดยกิจกรรมได้แบ่งเป็นกิจกรรมกีฬาสี มีทั้งหมด4สี ประกอบด้วยสี่แดง สีชมพู สีเหลือง สีม่วง ภาคเช้าของกิจกรรมได้มีการการเดินขบวนพาเหรดของแต่ละสี และ แข่งขันกีฬาสากลและพื้นบ้าน ช่วงบ่ายจัดเป็นกิจกรรมฐานวิบากซึ่งทางรุ่นพี่จะแบ่งเป็นฐานเพื่อทำความรู้จักรุ่นน้องแต่ละคนให้รู้จักกันดีขึ้น และฐานที่รุ่นน้องประทับใจคือฐานที่ต้องตอบคำถามว่า นึกถึงเอกพัฒฯนึกถึงอะไร เพราะเป็นหนึ่งคำถามที่มีหลายคำตอบที่สร้างความขบขันกันภายในฐานเช่นเดียวกับฐานอื่นๆ
แต่อุปสรรค์สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้นั้น เป็นในเรื่องของฝนฟ้าอากาศเพราะ ในวันที่จัดกิจกรรมได้มีฝนตกหนักในช่วงหลังจากเดินพาเหรดทำให้เป็นอุปสรรค์ในการจัดแข่งกีฬาแต่ทางผู้จัดก็ได้หาวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นจนสามารถจัดกิจกรรมได้ตามปกติ
(ถึงฝนจะตกลงมาอย่างหนักและทำให้เป็นอุปสรรค์ต่อการแข่งกีฬาแต่นักศึกษาเอกพัฒนาสังคมก็ไม่ย่อท้อสามารถเล่นกีฬาท่ามกลางน้ำฝนอย่างสนุกสนาน)
ส่วนในภาคค่ำได้มีการจัดการเลี้ยงรับประทานอาหารร่วมกันพร้อมกับมอบกระเป๋าย่ามสีแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนักศึกษาชั้นปีหนึ่งของเอกพัฒนาสังคมในมอ.ตานี โดยกิจกรรมดังกล่าวมีการดูแลโดยอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นไปอย่างสนุกสนานทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง
นักศึกษาชั้นปีหนึ่งคนหนึ่งได้กล่าวกับทีมข่าวเด็กหลังห้องว่า “กิจกรรมที่จัดขึ้นนั้นทำให้ ผมได้รู้จักกับพี่ต่างชั้นปีมากขึ้นทั้งหญิงและชาย และรู้สึกเป็นว่าการทำกิจกรรมแบบนี้ลดทิฐิระหว่างรุ่นได้ให้กลายเป็นครอบครัวเดียวกัน เกิดความรักโดยความจริงไม่ใช่การถูกบังคับให้น้องกับพี่ต้องรักกันจากการทำกิจกรรมบางอย่างที่กดขี่หรือไม่เคารพสิทธิกันและกัน เช่นการตะคอก การให้น้องมาอยู่รวมกันแล้วพี่ต้องทำหน้าขรึมจะจับผิดน้องเพียงอย่างเดียว กิจกรรมสานสัมพันธ์ครั้งนี้สนุกมากแม้จะมีฝนตก แต่ในภาพรวมรู้สึกพอใจมาก”
(ภาพบรรยากาศการจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์4ชั้นปีของสาขาพัฒนาสังคม จากเฟสบุ๊คของนักศึกษา)
ส่วนทางด้านนักศึกษารุ่นพี่ชั้นปีสองก็ได้ให้สัมภาษณ์กับเราว่า “สนุก มีความสุข เหนื่อยนะ แต่ดีใจที่สุดและภูมิใจ ที่ได้เห็นรอยยิ้มน้องๆ ความเสียสละ ความสามัคคี มันก็หายเหนื่อยส่วนจากกิจกรรมนี้จะทำให้สานสัมพันธ์พี่น้องได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของน้อง พี่จัดกิจกรรมขึ้นโดยไม่มีเป้าหมายอื่นใด แต่พี่ทำเพื่อน้อง ส่วนในเรื่องงบประมาณนั้นทางสาขาได้จัดเตรียมไว้ให้จำนวน 10,000 บาท และการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดีถึงแม้จะฝนฟ้าไม่เป็นใจเท่าไหร่นัก”
ทางด้านนายชวิศ วรสันต์ เลขาธิการกลุ่ม เยาวชนปฏิรูปการรับน้องและประชุมเชียร์แห่งชาติ (Anti-SOTUS)ได้ให้สัมภาษณ์และแสดงความคิดว่า "กิจกรรมรับรับน้องของเอกพัฒนาสังคมที่ได้จัดขึ้นนั้น เป็นกิจกรรมรับน้องที่เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างหนึ่ง เนื่องจากให้ความสำคัญกับน้องเป็นหลัก แทนที่จะใช้ความเป็นรุ่นๆเป็นขั้นบันไดปกครองกัน เปลี่ยนมาใช้วิธีอยู่แบบครอบครัวช่วยลดช่องว่างระหว่างพี่น้องได้มาก ความขัดแย้งความไม่สบายใจระหว่างรุ่นซึ้งเป็นปัญหาที่พูดยากก็จะลดลง จากการที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ผมยังเห็นว่ากิจกรรมนี้ได้ผลดีในด้านความสัมพันธ์เทียบเท่าหรือดีกว่า การรับน้องที่ใช้ความรุนแรงกดดัน บังคับให้คนรักกัน ที่สำคัญลดปัญหาต่างที่จะตามมาได้มาก เช่นความไม่สบายใจ การทะเลาะกัน และความรุนแรงบาดเจ็บได้มากเลยทีเดียว อีกส่วนหนึ่งที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีคือมีอาจารย์ลงมาดูแลให้คำปรึกษา ไม่ใช่แอบทำกันลับๆ ซึ่งอย่างน้อยที่สุดหากเกินอะไรขึ้นมีคนรับผิดชอบ ส่วนบทบาทอาจารย์ก็สำคัญเช่นกัน อย่างเช่นเอกพัฒฯอาจารย์ไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายเพียงแต่ ควบคุมไม่ให้เกินพอดีเพียงเท่านั้น ซึ่งต้องขอชื่นชมอาจารย์ เพราะปัญหาการรับน้องส่วนหนึ่งมาจากอาจารย์สนับสนุนเลยยากที่จะเลิกทำแบบเก่าๆหรืออาจารย์ละเลยไม่สนใจทำให้รุ่นพี่ทำตามอําเภอใจไม่ทำตามกติกา"
จากการให้สัมภาษณ์ของนักศึกษาเอกพัฒฯทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง รวมถึงการให้แสดงความคิดเห็นของเลขากลุ่มเยาวชนปฏิรูปการรับน้องและประชุมเชียร์แห่งชาติ(Anti-SOTUS)แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมกีฬาสีภายในเอกพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ปี2557 นี้ ได้จัดกิจกรรมลุล่วงตามวัตถุประสงค์แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างก็คือฝนตกแต่การสร้างสานสัมพันธ์ระหว่างพี่และน้องตามที่ได้คาดไว้ก็ยังคงลุล่วงด้วยดี และสร้างความรักความสามัคคีและความสนุกสนานภายในสาขาวิชาอีกด้วยอีกทั้งนักศึกษาชั้นปีที่1ได้สะท้อนออกมาอีกด้วยว่าการสานสัมพันธ์ด้วยการจัดการแข่งขันกีฬาแบบนี้ยังดีกว่าการมาว๊ากมาตะคอกการกดขี่ต่างๆที่เป็นวิธีการไม่สร้างสรรค์เพราะจะทำให้น้องเครียดและมีอคติกับรุ่นพี่อีกด้วย
- 7 views