Skip to main content

27 ก.ค.2558 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการจัดนิทรรศการและสื่อสารคดีเฉลิมพระ เกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดย มติชนออนไลน์ รายงานคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยว่าหวังให้ประชาชนและนักเรียนจาก 88 โรงเรียนทั่วประเทศมีส่วนร่วมและนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนตระหนักถึงความพอเพียงเพื่อลูกหลานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันสื่อจะต้องมีคุณภาพและความรับผิดชอบ รายงานทั้งความบันเทิงและสาระ และต้องติดตามโซเชียลมีเดียด้วยเพราะหากไม่ตามจะโดนหาว่าโง่ แต่ถ้าฟังแล้วเชื่อไปหมดจะโดนหาว่าบ้า และข่าวสารต้องติดตาม แต่ต้องรู้ให้จริง อย่าไปสนใจนักเรื่องการปรับ ครม. อย่างรายการคืนความสุข ตนอุตส่าห์พูดแทบตาย ยังปิดทีวีหนี นอกจากนี้อยากให้ลูกหลานตระหนักถึงประวัติศาสตร์ของประเทศให้ได้

ขณะเดียวกันสิ่งที่ยังเป็นปัญหาคือความเข้มแข็งและความยากจนของประเทศซึ่งไทยมีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดในโลกเพราะหยิบจับอะไรก็เป็นเงิน เช่น การขับจักรยานยนต์รับจ้าง การเก็บเงินค่าเข้าสถานที่สำคัญ ที่เมื่อมีการปล่อยปละละเลยก็มีรายได้ แต่พอเข้มงวดมากขึ้นก็ทำให้รายได้ของประเทศลดลง ซึ่งรัฐบาลพยายามให้เกิดความเป็นธรรมที่สุดแต่ยอมรับว่าระยะแรกก็ทำได้ยาก

คนไทยเป็นคนละเอียดอ่อน ช่างติ ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่เรื่องใหญ่เป็นเรื่องใหญ่ไปอีก แต่ก็ขอให้ไปใช้ในเรื่องสำคัญที่จะต้องแก้ที่ระบบการศึกษา เพราะเด็กสมัยนี้ไม่มีจินตนาการ ไม่มีการสร้างการคิดที่ต่อเนื่อง นโยบายของรัฐบาลนี้ นักเรียนต้องมีความสุข ครูต้องมีความสุข ไปหาวิธีมาให้ได้ภายใน 2 ปีที่ตนยังอยู่ ขณะเดียวกันเยาวชนจะต้องหาตัวเองให้เจอว่าชอบอะไร หาให้เจอให้มีภูมิความรู้แล้วค่อยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นไม่เช่นนั้นสังคมก็จะปั่นป่วนกันไปหมด

อย่างไรก็ตาม การปลูกข้าว 10 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีการปรับแก้โครงสร้างทั้งความต้องการและการผลิต เกษตรกรพยายามปลูกข้าวให้ได้ปีละ 5-6 ครั้ง จนสุดท้ายทำให้ข้าวไม่มีคุณภาพไปเน่าอยู่ในครั้ง จึงต้องจัดระเบียบใหม่ทั้งหมด หากไม่แก้ก็ต้องวนมาแบบเดิม ขณะนี้รัฐอยู่ระหว่างการออก พ.ร.บ.การเช่าที่นาและการบริหารจัดการน้ำ

"ค่านิยม 10 ประการไม่ได้ยกเลิกของจอมพล ป.เลยเพียงแต่เพิ่มบางข้อ รัฐบาลไม่ได้อะไรแต่ได้กับตัวเองทั้งนั้น ยากไหม 12 ข้อ ทำแล้วมันตายไหม คนมันจะว่าอยู่ทุกวัน ไอก็ว่าแล้ว"