Skip to main content

ในงาน “ปฏิรูปประเทศไทย ต้องเข้าใจสิทธิมนุษยชน” เนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล จี้ถาม “แล้วการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ผ่านมาเรียกว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่?”

วันนี้ 12 ธันวาคม 2557 ณ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม) ได้มีการจัดงาน "ปฏิรูปประเทศไทย ต้องเข้าใจสิทธิมนุษยชน" เนื่องในวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมาเป็นวัน สิทธิมนุษยชนสากล โดยมีการมอบรางวัล การร่ายบทกวี ละคร การแสดงดนตรี เป็นต้น

เมื่อเวลา 09.15 น. ตัวแทนศนปท. ขึ้นมอบแผ่นป้ายโปสเตอร์ขนาดA3 มีรูปผู้ถูกดำเนินคดีหลังรัฐประหาร 57 ให้ อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกสม. โดยมีข้อความว่า " กสม อยู่ไหนเมื่อปืนมา! " และ
ในเวลาใกล้กันได้มีภาคประชาชนกลุ่มเมล็ดพริก ชูป้ายหน้าเวทีต่อหน้า ประธานกสม. หนึ่งในป้ายมีข้อความว่า "เลิกจ้าง กสม" หลังจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม) หายสาบสูญไปช่วงรัฐประหาร และปล่อยให้ประชาชนถูกคุมคาม 

จากนั้นนักศึกษากลุ่มศนปท.และกลุ่มดาวดิน ได้บุกชู 3 นิ้ว หน้าประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนในพิธีมอบรางวัลต่อหน้าสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ UN โดยสมาชิกศนปท. ได้กล่าวว่า "แม้เสรีภาพมันกินไม่ได้ แต่มันกำหนดลมหายใจคุณได้" พร้อมตั้งคำถามกับกสม.ว่า เป็นองค์กรที่ขึ้นกับ คสช. ด้วยหรือไม่

นักศึกษากลุ่มดังกล่าวจึงเรียกร้องให้ กสม. ออกมาคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากขึ้น รวมทั้งให้มีการผลักดันสิทธิในการประกันตัว ให้มีกระบวนการที่รวดเร็วไม่เป็นสองมาตรฐาน และคดีความมั่นคงต่างๆมักถูกขึ้นศาลทหาร ไม่ผ่านกระบวนการปกติ

หลังจากนั้นมีรายงานด้วยว่า  อมรา เปิดห้องรับรองให้ตัวแทน ศนปท. และกลุ่มอื่นๆ เพื่อทำความเข้าใจ และหารือซักถามในปัญหาค้างคาใจต่อ กสม. ด้วย 

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมกำลัง ได้เชิญตัว สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และนัชชชา กองอุดม 2 ตัวแทนนักศึกษาดังกล่าวร่วมพูดคุยที่ สนง.คณะกรรมการสิทธิ์ฯ ต่อ เพื่อปรับทัศนคติทำความเข้าใจว่าการชู 3 นิ้ว อาจจะเป็นการนำไปสู่การปลุกระดมทางการเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ได้ และอาจะก่อให้เกิดปัญหาต่อความมั่นคงของประเทศ จึงชี้แจงทำความเข้าใจและแจ้งว่าอย่ากระทำเช่นนี้อีก ก่อนให้เจ้าตัวลงลายมือชื่อ

ภาพจากเฟซบุ๊ก Kessarin Tieawsatul 

นอกจากนี้ ในงานดังกล่าวยังมีประชาชน 2 ราย ในนามกลุ่มเมล็ดพริก ชูป้ายข้อความว่า "เลิกจ้าง กสม." โดยมีการออกประกาศเลืกจ้าง กสม. ด้วย

โดยระบุว่า ด้วย กสม. เป็นองค์กรอิสระที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน มีอำนาจหน้าที่ส่งเสริมให้มีการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนในประเทศและระหว่างประเทศ มีหน้าที่ตรวจสอบและรายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
 
ตั้งแต่การชุมนุมของคนเสื้อแดงปี 2553 จนถึงการรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ กสม. มิได้ปฏิบัติตนตามหลักการและหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างตรงไปตรงมาและเต็มกำลัง มิหนำซ้ำกลับเลือกปฏิบัติให้การตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสนับสนุนรัฐบาลทหารในการใช้กำลังปราบปรามประชาชน ไม่สามารถทำให้ประชาชนเป็นที่พึ่งในยามที่บ้านเมืองอยู่ภายใต้รัฐทหาร ทั้งเป็นตัวการที่ทำให้สถานการณ์ต่างๆ เลวร้ายลง
 
การที่ กสม. จัดพิธีมอบรางวัลให้แก่บุคคลต่างๆ ในวันสิทธิมนุายชนสากลนี้ จึงเป็นเรื่องการหลอกลวตัวเองและเพื่อร่วมชาติว่า ประเทศไทยมีสิทธิมนุษยชน ทั้งๆ ที่สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศถึงจุดตกต่ำที่สุด
 
ประกาศดังกล่าวระบุด้วยว่า ในฐานผู้เสียภาษี จึงประกาศมายัง กสม. ว่า คณะ กสม. สอบตกในการปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของคนในประเทศ การให้ กสม.ทำหน้าที่ต่อไป ก็มีแต่จะไม่เกิดประโยชน์อันใดต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ จึงของประกาศเลิกจ้าง กสม. ชุดนี้