คุณธานินทร์ ทิมทอง ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท Learn Education เผยว่า ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ อนาคตเชื่อว่าจะเดินไปในทางที่เรียกว่า AI : artificial intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เมื่อไม่นานมานี้ World Economic Forum ได้ทำวิจัยคาดการว่าอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า ปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามาทดแทนคนในหลายๆส่วนตัวหนึ่งซึ่งน่าตกใจ ในอนาคตจะมี AI เป็นบอร์ดบริหารเกินครึ่งประมาณ 40% ปัจจุบันมี 2-3 บริษัทที่ไม่จ้างผู้บริหารที่เป็นคนแต่จะจ้างหุ่นยนต์ทำงานแทน ในสถานะของคนที่อยู่วงการศึกษา จึงตั้งคำถามว่าจะปรับตัวอย่างไร เทคโนโลยีจะมาแทนเราไหม แล้วอะไรที่จะต้องปรับตัวบ้าง
“ทางบริษัทได้ส่งทีมไปวิจัยพบว่า อาชีพ 600-700 อาชีพนั้นมาดูความน่าจะเป็นว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถนำมาแก้ไขได้ไหม ถือว่าเป็นข่าวดีซึ่งตรงกับความเชื่อของเราเลย โอกาสของอาชีพทางการศึกษา เช่นครูด้านต่างมีโอกาสถึง 0.2% ที่จะถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์ เพราะบทบาทของคุณครูคือความคิดสร้างสรรค์ ความฉลาดทางอารมณ์และสังคม ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเด็กให้เกิดการเรียนรู้ ซึ่งเทคโนโลยีไม่สามารถทดแทนได้ ในขณะบางอาชีพ เช่น เจ้าหน้าที่การตลาดทางโทรศัพท์ และอาชีพที่ต้องเคลียร์เอกสารต่างๆ ก็อาจจะหมดไปแทนที่ด้วยออนไลน์ 100% ตัวเทคโนโลยีทางการศึกษาพอพูดถึงการสร้างคนในยุคศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก แต่จะมีคนหนึ่งที่สำคัญที่ไม่หายไปไหนก็คือคุณครู ผมยกตัวทุกประเทศเขาก็มองจะพัฒนาคนไปสู่ยุคศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไรบ้าง ตัวอย่างประเทศฟินแลนด์มีประชากร 4 ล้านคน มีครูทั้งจำนวนและคุณภาพเป็นอันดับต้นๆของโลก สิ่งที่ฟินแลนด์ทำก็คือ พยายามสร้างคนของเขาให้มีความกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้วยควบคู่กับมีครูคอยกระตุ้น ผลที่ได้ชัดเจนมาก ผมมีน้องทีมงานอยู่หนึ่งคนเรียนอยู่ที่ฟินแลนด์ตั้งแต่อายุน้อยๆ เรียนม. 1-ม. 6 แต่สิ่งชัดมากคือ กล้าคิด กล้าแสดงออก และไอเดียคมคายมาก อีกหนึ่งประเทศมีจุดมุ่งเดียวกันเลย คืออเมริกา เนื่องจากมีประชากรจำนวนมาก ความท้าทายอาชีพครูก็เยอะในบางรัฐ เขาใช้เลือกเทคโนโลยีในห้องเรียน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการจัดการบริหารโรงเรียน” ธานินทร์ กล่าว
ธานินทร์ กล่าวต่อว่า ตนดีเพราะมีการศึกษา เมื่อได้ยินความท้าทายทางการศึกษา ในเรื่อง การขาดแคลนครู ครูมีภาระหนักเกินไป ผลสัมฤทธิ์ที่ออกมาก็ต่ำ การประเมินระดับนานาชาติ การศึกษาไทยก็จะอยู่ในระดับท้ายๆ ขณะนี้ตนเริ่มลงมือปฏิบัติวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ซึ่งเป็น 2 วิชาที่มีสัมฤทธิ์ต่ำและขาดแคลนครูเยอะที่สุด ขณะที่ตนเป็นวิศวกรคิดว่าจะต้องนำเทคโนโลยีสร้างมาเพื่อช่วยสนับสนุนครูในการเรียนการสอน ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นให้ได้ ทุกๆพื้นที่ ไม่ว่าครูจะจบมาแบบไหน ปัจจุบันเริ่มทำที่โรงเรียนสหวิทย์ในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีความท้าทายด้านการศึกษามาก ผลที่ออกค่อนข้างดี เพราะมีคะแนนโอเน็ตเพิ่มขึ้นเป็น 31% ภายในเวลา 3 ปี กลายเป็นโรงเรียนที่มีคะแนนมากเป็นอันดับ 1 ของจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนเบื้องหลังคือการนำเทคโนโลยีเข้าทำให้ครูสร้างความหลากหลายได้มากขึ้น ทัศนะของต่อวิชาและความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนก็เพิ่มด้วย การที่จะแก้ไขปัญหาเทคโนโลยีที่จะนำช่วยในการศึกษา ประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบหลัก คือ 1.การประสานเทคโนโลยีเข้ากับการศึกษา 2. การเรียนแบบผสมผสาน และ 3. บริบทในการเรียนแต่ละวิชา
“ต้องบอกก่อนนะครับว่าเมื่อนำเทคโนโลยีเข้าไปแล้วจะทำให้การศึกษาแก้ได้ แต่เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่ง ซึ่งจะทำอย่างไรให้เทคโนโลยีช่วยให้การศึกษาเราดีขึ้น “ธานินทร์กล่าว