16 ม.ค.2558 ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีงานวันครู ครั้งที่ 59 พร้อมกล่าวปราศรัยเนื่องในวันครู โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการคุรุสภา ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ครู และแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน
โดย พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้โลกมีความเปลี่ยนแปลงทุกคนต้องตามให้ทันการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า และทุกคนต้องทำด้วยความเสียสละ โดยไม่สามารถบังคับได้ ทั้งนี้ ปัญหาในประเทศไทยคือการขับเคลื่อน ต้องแก้ไขอย่างไรให้ครูเดินไปในทางเดียวกัน ให้ประเทศชาติไม่เกิดความขัดแย้ง ให้เด็กและเยาวชนอยู่ในกรอบกฎหมาย ในนามของรัฐบาล ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุข อยู่กันได้โดยไม่เกิดความขัดแย้ง และเตรียมเข้าสู่อนาคต โดยเอาบทเรียนในอดีตก้าวไปข้างหน้า ดังนั้น การผลิตนักเรียน นักศึกษาออกมา ต้องมีการกำหนดพื้นฐานกระบวนการที่มีมาตรฐาน
วันนี้ครูในทุกศาสนาทุกระดับต้องขับเคลื่อนไปในแนวทางเดียวกัน คือ แนวทางการสร้างประเทศไปข้างหน้า เพื่อให้ลูกศิษย์อยู่ในกรอบของกฎหมาย มีสิทธิเสรีภาพในหน้าที่ ส่วนรัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบายการศึกษาของประเทศ รวมทั้ง ยังต้องเตรียมการการเข้าสู่อนาคตโดยใช้บทเรียนที่ผ่านมา โดยการพัฒนาบุคลากรให้เท่าเทียมต่างประเทศ พร้อมกล่าวฝากให้ครูคิดว่าจะทำอย่างไรให้ครู นักเรียน และผู้ปกครองมีความสุข ทั้งเรื่องหนี้สิน ค่าใช้จ่าย คุณภาพชีวิต โดยการผลิตนักเรียนต้องมีพื้นฐาน ก่อนการพัฒนาไปสู่ระดับที่สูงขึ้นไป
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ครูทุกคนช่วยกันขับเคลื่อน คือ 1.มีเหตุมีผลในการใช้จ่าย 2. การพอประมาณ 3.การมีความรู้คู่คุณธรรม โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำหรับการศึกษาต้องดูว่าวันนี้จะแก้ไขปัญหาการศึกษาได้อย่างไร โดยต้องนำครู นักเรียน ผู้ปกครอง มาเป็นโจทย์ วันนี้ครูต้องสอนให้นักเรียนมีระเบียบวินัย โดยทุกฝ่ายต้องให้กำลังใจครูในการทำหน้าที่ รัฐบาลพร้อมจะดูแลทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งหมด สำหรับเรื่องหนี้สินสวัสดิการ ต้องแก้ไขด้วยวิธีการใหม่ เพราะวิธีการเดิมไม่สามารถแก้ไขได้ และรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวต้องมีการแก้ไขใหม่ทั้งระบบ
สำหรับกรณีที่ครูต้องการมีเวลาสอนนักเรียนให้มากขึ้น จะต้องปรับแก้ไขการประเมินผลงานโดยปรับให้ใช้เวลาน้อยลงอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ทุกอย่างต้องปรับแก้ในปัญหาด้านโครงสร้างทั้งหมด ขณะเดียวกันการของบประมาณต้องคิด และประเมินให้รอบคอบ เพราะที่ผ่านมากระทรวงต่าง ๆ ยังขาดการประเมินในการของบประมาณ แต่กลับใช้แผนเดิมซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยต้องลดภาระเพื่อลดการใช้จ่าย อีกทั้ง ต้องจัดบุคลากรให้เหมาะสม มีการประเมินครู โรงเรียนอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ โรงเรียนต่าง ๆ ต้องยกระดับมาตรฐานการสอนให้เท่าเทียมกันให้ได้ เพื่อลดปัญหาการเก็บเงินสนับสนุนโรงเรียน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยยังขาดนักวิจัย นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ หากสามารถดึงผู้ที่มีความสามารถของไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศกลับมาได้จะเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ ปัจจุบันเด็กนักเรียน เรียนพิเศษตั้งแต่ชั้นอนุบาล ซึ่งไม่มีความจำเป็นเพราะทำให้ผู้ปกครองต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยต้องมองว่าจะทำอย่างไรให้เด็กสนใจ การอ่านหนังสือ และเล่นเกมให้น้อยลง วันนี้ต้องพัฒนาสื่อการสอนโดยครูต้องเรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งต้องผนวกความรู้ของครูให้เข้ากับสื่อ อาทิ เช่น google และ social media ต้องสอนเด็กให้รักการเรียนรู้ รักการอ่าน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ วันนี้ต้องสอนว่า เรื่องใดมีประโยชน์อย่างไร เพราะปัจจุบันมีสิ่งชักจูงความสนใจของนักเรียนหลากหลาย ปัจจุบันเด็กสมาธิสั้น เราต้องสอนให้เด็กเกิดความเข้าใจ มีกระบวนการคิด และกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์
"ครูต้องสอนให้เด็กกล้าแสดงออก โต้แย้งได้แต่อย่าขัดแย้ง เราจะได้ไม่ติดกับดักประชาธิปไตย วันนี้ทุกคนทวงถามเรื่องเลือกตั้ง แต่ถามว่าใครที่เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง และมาจากไหน หรือจะมาจากต่างประเทศ วันนี้ไม่มีใครรู้แต่ทั้งหมดคือคนไทย วันนี้มีแต่ขัดแย้งเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ เราต้องคิดถึงประชาชน ต้องมีการวางแผนการเลือกตั้ง ใครเข้ามาต้องแถลงนโยบายและต้องมีการตรวจสอบ เพราะหากเกิดปัญหาก็อาจกระทบไปยังสนช. สปช. ด้วย ส่งผลให้คนทำงานเกิดความหวาดกลัว ทั้งที่มีหลักเกณฑ์อยู่แล้ว จึงขอให้ไปแก้ไข และใครจะมาบริหารบ้านเมืองต่อไปในอนาคตต้องรู้มากกว่าผม อย่าไปเลือกตามที่เคยเลือกมา ประชาชนต้องเป็นผู้เริ่มต้นว่าต้องการรัฐธรรมนูญอย่างไร อย่าไปเลือกแบบญาติพี่น้องหรือกลุ่มเก่า" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่ามีสถาบันการศึกษาสอนให้นักเรียนเกลียดชัง คสช. ว่า ทางฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูลอยู่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่มีอยู่ไม่มากซึ่งอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจกันนิดหน่อย แต่อยู่ที่ไหนก็น่าจะรู้ แต่อย่าไปขยายความต่อไปเลย โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เพียงแต่ผมพูดให้ฟังว่าอาจจะไม่เข้าใจ ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีการรับรายงานเหล่านี้ แต่ผมก็ไม่ได้ถือเป็นอารมณ์ แต่อยากให้ทำความเข้าใจว่า การทำงานของเราวันนี้ทำเพื่ออะไร เพื่อจะแก้ปัญหา เพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมในการที่จะทำให้ประเทศปฏิรูปได้ เดินหน้าไปข้างหน้าต่อไปได้ มันก็ควรจะหยุดกันบ้าง ไม่ใช่ไปสร้างความเกลียดชังให้เด็กๆ ซึ่งเด็กเขาก็เป็นผู้บริสุทธิ์ ขอร้องเถอะ ในนิสิต นักศึกษาก็มี ไม่เคยคิดเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย สมองไม่รู้เป็นยังไง คือประชาธิปไตย ซึ่งก็เป็นประชาธิปไตยอยู่ ผมก็ไม่ได้ไปเถียงเลยเรื่องประชาธิปไตย ผมก็จะนำไปสู่ประชาธิปไตยที่มันมั่นคงขึ้น ถ้าผมไม่ทำแล้วใครจะทำ มีใครนำไหม หรือใครจะนำ นำไม่ได้ก็ต้องให้รัฐบาลเขาทำ ซึ่งรัฐบาลก็พยายามทำทุกอย่าง พยายามไม่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรที่ทำให้เกิดความไม่โปร่งใส ไปปิดกั้นอะไร เว้นแต่ว่ามาพูดจาต่อต้านโดยตรง เป็นท่านจะยอมไหม จะให้ทำไหม ทั้งๆ ที่มีอำนาจทุกอย่างทุกประการ ผมยังแทบไม่ได้ใช้เลย นี่คือสิ่งที่ผมทำ ก็ต้องให้เดินหน้าไปให้เกิดความชัดเจนขึ้น วันนี้มีหลายอย่างก็ต้องติดตามแล้วกันว่าถูกหรือผิดก็ว่ามา"
เรียบเรียงจาก ศูนย์สื่อทำเนียบ, เดลินิวส์, คมชัดลึกออนไลน์ และ เนชั่นทันข่าว