Skip to main content

ผอ.องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ชี้จนท.รัฐ ทุจริต 30% ขอ ปชช. ตื่นตัว ช่วยปฏิรูป กล้าณรงค์ ชี้พลังนศ.ล้มล้างคอร์รัปชั่นได้ "เมธี" ระบุ อาจารย์ น.ศ. ต้องซื่อสัตย์ ช่วยแก้คอร์รัปชัน

11 พ.ย. 2557 สถาบันอุดมศึกษาในเครือข่ายเพื่อพัฒนาอุดมศึกษาภาคกลางตอนบนร่วมประกาศสัตยาบันสถาบันอุดมศึกษาต่อต้านคอร์รัปชั่นบริเวณลานคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เป็นประธานในการกล่าวสัตยาบันว่า คอร์รัปชั่น เป็นภัยที่ก่อให้เกิดให้เกิดปัญหาทั่วโลก ซึ่งจากการจัดอันดับไทยเป็นอันดับ 102 จาก 177 ทั่วโลก แม้จะมีการแก้ปัญหาแต่ยังไม่บรรลุผลสถาบันการศึกษาจึงร่วมกันจัดกิจกรรมในการแก้ปัญหา และขอประกาศสัตยาบันร่วมกันโดยเริ่มจากการสร้างจิตสำนึกในมหาวิทยาลัยในเครือข่ายฯปราศจากการทุจริตในการสอบการคัดลอกผลงานวิชาการการจัดซื้อจัดจ้างในมหาวิทยาลัยให้เป็นแบบอย่างองค์กรปลอดคอร์รัปชันรวมถึงการสร้างเครือข่ายในเฝ้าระวังการคอร์รัปชั่นด้วย

ขรก. จนท.รัฐ ทุจริต 30% ขอ ปชช. ตื่นตัว ช่วยปฏิรูป

นายมานะ นิมิตรมงคล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวในงานเสวนาเรื่อง "ปฏิรูปอย่างไร แก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน" ว่า ปัจจุบัน นักการเมืองมองข้ามอุดมการณ์มองแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ขณะเดียวกันยังพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐและข้าราชการที่ทุจริต 30% โดย 50% ยังมีความคลุมเครือ และ 20% เป็นคนดี อาจเพราะสภาพแวดล้อมหรือช่วยเรื่องความคล่องตัวของการทำงาน โกงรับส่วนแบ่งกันไปตามระบบโกง ใช้อำนาจและบริหารบุคคลอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ภาคเอกชน 80% มีการทุจริตในองค์กรของตัวเอง จากปัญหาการการโกงประเทศไทย ในทุกภาคส่วนเกิดปัญหาสังคมในหลายอย่าง การคอร์รัปชัน มีโอกาสสร้างรายได้ให้เหนือคนอื่น สร้างความมั่งคั่ง และทำให้เข้าสู่อำนาจ

ดังนั้น เราต้องสร้างจุดเปลี่ยน โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ ให้สื่อมวลชนทำงานอย่างเสรีปราศจากอิทธิพลทางธุรกิจและการเมือง ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย รัฐบาลต้องเป็นผู้นำต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน

อย่างไรก็ตาม การตื่นตัวของภาคประชาชน เป็นกำลังสำคัญให้เกิดกระแสการต่อต้านคอร์รัปชัน ถึงเวลาที่คนไทยภาคการศึกษาที่จะเป็นเป้าหลอมของประเทศ และกล้าที่จะพูดว่าเราจะไม่ยอมให้ใครคอร์รัปชัน จะช่วยกันปฏิรูปการต่อต้านคอร์รัปชันเพื่ออนาคตขอคนไทยทุกคน

กล้าณรงค์ ชี้พลังนศ.ล้มล้างคอร์รัปชั่นได้

นายกล้าณรงค์ จันทิก สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวตอนหนึ่งในงานเสวนาเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่สถาบันการศึกษาให้ความสนใจในการต่อต้านคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะเหตุการณ์ 6 ตุลาคมที่นักศึกษามีอุดมการณ์ร่วมกันในการต่อต้านคอร์รัปชั่น จากนั้นก็ลดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตนมองว่าพลังนักศึกษาเป็นพลังที่สะอาดและจะล้มการคอร์รัปชั่นได้

ประเทศไทยมีปัญหาหลายประการ แต่ปัญหาทางการทุจริตเกิดจาก การเมือง เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งในวิกฤติปี 2540 ไทยมีเงินทุนไหลเข้าประเทศจำนวนมาก แต่เงินจำนวนนั้นไม่ได้นำไปสู่การพัฒนาประเทศ รวมถึงรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีเสถียรภาพด้านความมั่นคง เกิดความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ นอกจากนี้ประชาชนยังไม่รู้จักประชาธิปไตย ไม่เข้าใจการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว.ที่เข้ามาทำหน้าที่อย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่เป็นรูปธรรม จึงมีการเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูป

นอกจากนี้นายกล้าณรงค์ยังระบุว่า การคอร์รัปชั่น คนทำได้ประโยชน์แต่คนเสียคือประเทศชาติ ซึ่งการติดสินบน การยักยอก และการแต่งตั้งโดยอุปถัมถ์ ก็นับเป็นการคอร์รัปชั่นรูปแบบหนึ่ง โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 11 จากจำนวน 144 ประเทศที่มีเงินไหลออกนอกประเทศ การแก้ไขคอร์รัปชั่นจึงต้องแก้ไขในทุกจุด รวมถึงรัฐธรรมนูญที่เป็นเพียงกระดาษที่จะไม่สามารถทำอะไรได้หากปราศจากการมีส่วนรวมจากทุกคน

 

"เมธี" ระบุ อาจารย์ น.ศ. ต้องซื่อสัตย์ ช่วยแก้คอร์รัปชัน

นายเมธี ครองแก้ว ประธานคณะอนุกรรมการวิจัยและป้องกันการทุจริต กล่าวในงานเสวนาเรื่อง "มหาวิทยาลัยโปร่งใส อนาคตไทยปลอดคอร์รัปชัน" ตอนหนึ่งว่า การทุจริตอีกอย่างหนึ่ง คือ การที่อาจารย์ไม่ขวนขวายหาความรู้ เพื่อพัฒนาการสอน จึงถือว่าเป็นการทุจริตต่อตนเอง และนักศึกษา เพราะฉะนั้น อาจารย์ต้องมีความซื่อสัตย์หาความรู้ให้แก่ตัวเองให้มากที่สุด และนำพามหาวิทยาลัยไปสู่ความเป็นเลิศ รวมถึงนักศึกษาเอง ควรสนับสนุนการทำงานของอาจารย์ ขณะเดียวกัน ในส่วนศิษย์เก่านั้น ควรมีบทบาทในการสร้างเสริมความมีสมรรถภาพมหาวิทยาลัยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ทั้ง 4 กลุ่ม คือ อาจารย์ นักศึกษา ศิษย์เก่า และเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย ต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพราะประโยชน์สูงสุดจะเกิดขึ้นแก่ตนเอง รวมถึงประเทศชาติด้วยเช่นกัน ส่วนขั้นตอนคัดเลือกเยาวชนที่จะเข้ามาในสถาบันอุดมศึกษานั้น ต้องยึดหลักความสามารถของแต่ละบุคคลและต้องผ่านการทดสอบ

อย่างไรก็ตาม ในการแก้ปัญหาปัญหาคอร์รัปชัน ยังมีความหวังอยู่ ขอให้ช่วยประคับประคองให้เกิดผลให้สำเร็จต่อไป

 

เรียบเรียงจาก : มติชนออนไลน์, สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.