Skip to main content

กลุ่มนักศึกษาพิทักษ์ประชาธิปไตย ม.รามคำแหง ออกแถลงการณ์ หลังมีสมาชิกถูกรุมทำร้าย คาดเหตุโพสต์เฟซบุ๊กต้าน คสช. ยันเดินหน้ากิจกรรมต่อ เตือนกลุ่มคนไม่เห็นด้วยในมหาวิทยาลัยให้เคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของทุกคน

 
แถลงการณ์กลุ่มนักศึกษาพิทักษ์ประชาธิปไตยมหาวิทยาลัยรามคำแหง กรณีหนึ่งในสมาชิกกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยถูกล้อมและโดนทำร้าย

เนื่องวันที่ 9 มีนาคม 2558 ในเวลา 12.40 น. นายกิตติพศ ปทุมวรชาติกุล ถูกเพื่อนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความคิดเห็นต่างกันทางการเมืองล้อมทำร้ายและข่มขู่โดยการตบหน้าและแสดงท่าทีไม่พอใจ นายกิตติพศ ปทุมวรชาติกุล ที่บริเวณตึก VPB ชั้น 1 หรือตึกเวียงผา และหลังจากนั้นในเวลาต่อมาก็ได้มีกลุ่มเพื่อนในสมาชิกได้เข้ามาและพาตัว นายกิตติพศ ปทุมวรชาติกุล ออกจากจุดที่เกิดเหตุและพาไปแจ้งความที่ สน.หัวหมาก โดยการบันทึกประจำวันไว้ก่อน

ซึ่งมูลเหตุที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะ นายกิตติพศ ปทุมวรชาติกุล ได้โพสต์ Facebook โดยการวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับการได้มาของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (หรือ คสช) 

อย่างไรก็ตามทาง กลุ่มนักศึกษาพิทักษ์ประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขอย้ำเตือนกลุ่มคนไม่เห็นด้วยในมหาวิทยาลัยให้เคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของทุกคนด้วย เพราะการเห็นต่างในทางการเมือง ซึงเกิดขึ้นจากบุคคลหรือปัจเจกบุคคลและไม่มีใครห้ามความเห็นทุกคนได้ และในลักษณะการข่มขู่ในครั้งนี้โดยมติกลุ่มซึ่งมองว่าเป็นการกระทำที่ไร้สติปัญญาและสามัญสำนึกมากที่สุด 

และต่อจากนี้ทางกลุ่มนักศึกษาพิทักษ์ประชาธิปไตยจะคอยระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก แต่หากว่ายังมีกรณีนี้เกิดขึ้นทางเราจะเผยแพร่สู่สาธารณะชนให้ชาติโดยทั่วกัน และจะประจานบุคคลกลุ่มนั้นเพื่อดำเนินคดีกันต่อไป

                                                                                                           

ด้วยความเคารพและนับถือ

กลุ่มนักศึกษาพิทักษ์ประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยรามคำแหง

09-03-2558

ด้านนายกิตติพศ ปทุมวรชาติกุล หรือนิว สมาชิกกลุ่มนักศึกษาพิทักษ์ประชาธิปไตยที่ถูกรุมทำร้าย ได้กล่าวว่าปกติเป็นคนติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่แล้ว และชอบโพสต์ตั้งประเด็นถกเถียงในสังคมออนไลน์ ค่อนข้างเปิดรับความคิดที่แตกต่าง อาจทำให้หลายคนตั้งแง่ไม่พอใจ และขุดคุ้ยประเด็นเหล่านี้มาเล่นงานตน

รวมทั้งเคยไปร่วมม็อบต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ราชดำเนิน และเพิ่งเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่ม ยังไม่มีบทบาทอะไรมากมาย เปรียบเหมือนเด็กเสิร์ฟกาแฟ จึงไม่ได้ประเมินความเสี่ยง หรือคาดการณ์สิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเองเท่าไหร่ อนาคตจะยังเคลื่อนไหวต่อไปภายใต้กรอบกฎหมายเพราะตนเรียนนิติศาสตร์ และอยากให้ต่างฝ่ายเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกันและอยู่ในกรอบของตัวเอง

ภาพขณะเข้าแจ้งความ

ในขณะที่กลุ่มนักศึกษาพิทักษ์ประชาธิปไตย ได้กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐคุกคามเสรีภาพนักศึกษา ยังไม่เท่ากับนักศึกษาคุกคามเสรีภาพกันเอง และมหาวิทยาลัยต้องสร้างให้นักศึกษามีความคิดริเริ่ม มีเครื่องมือของความคิดที่ออกมาจากส่วนลึกของตัวเอง ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ให้เชื่อในความเสมอภาค เสรีภาพ ยอมรับความคิดเห็นผู้อื่นโดยไม่ใช้กำลังประทุษร้ายผู้อื่นเพราะความคิดเห็นที่แตกต่าง และทางกลุ่มจะเดินหน้าทำกิจกรรมต่ออย่างเต็มที่ แต่ต้องวางแผนให้รอบคอบ และปลอดภัยกว่านี้คงต้องคุยกันยาว