Skip to main content

พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาฯ กล่าวถึงกรณีนักเรียนแชร์โพสต์กระดาษคำตอบ GAT ลงอินสตาแกรม ชี้เป็นเรื่องอุบัติเหตุ เป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก ระบุหน่วยงานจะสอบสวนถึงสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

จากการที่นักเรียนชั้น ม.6 รายหนึ่งจากสนามสอบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ห้องสอบชั้น ม.1/4) ได้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในห้องสอบวิชาความถนัดทั่วไป (GAT) และได้ถ่ายรูปข้อสอบและกระดาษคำตอบจากห้องสอบ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 เพื่อโพสต์แชร์ผ่าน INSTAGRAM ซึ่งในรูปภาพนั้นมีการระบุชื่อและนามสกุลจริง รวมถึงเลขบัตรประจำตัวประชาชนชัดเจน พร้อมทั้งบรรยายใต้รูปว่า “คะแนนติดลบล้วนๆ 55555555555555555 #RIP #gat #pat #m6W”

ต่อมา เว็บ Dek-D รายงานด้วยว่า รศ.ดร. สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเบื้องต้นว่า สทศ.ได้ตรวจสอบกรณีที่มีการโพสต์หัวกระดาษคำตอบวิชาความถนัดทั่วไป (GAT ตอนที่ 1) เผยแพร่ลงบน Social Media และได้ทราบชื่อผู้กระทำการดังกล่าวแล้ว โดย สทศ.ได้มอบหมายให้ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่หาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในพฤติกรรมและเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่ง สทศ. จะดำเนินการตามประกาศสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เรื่อง ข้อปฏิบัติสำหรับผู้เข้าสอบในการทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป (GAT) และวิชาความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (PAT) ประจำปีการศึกษา 2558 ประกาศ ณ วันที่ 29 กันยายน 2557 และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับการฝ่าฝืนข้อปฏิบัติของประกาศฯ กรณีนี้ ในเบื้องต้น สทศ. จะพิจารณาไม่ตรวจกระดาษคำตอบในรายวิชาดังกล่าว และจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาเพื่อพิจารณาตามระเบียบต่อไป” (อ้างจาก http://www.dek-d.com/board/view/3415754)

โดยเว็บ Dek-D รายงานต่อว่า นักเรียนรายดังกล่าวได้แสดงความขอโทษแล้ว โดยระบุไม่ได้ตั้งใจกระทำการทุจริต และพร้อมจะยอมรับผิดตามกฎของ สทศ.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวสำนักงาน รมว.ศึกษาธิการ ได้รายงานความเห็นของ พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องอุบัติเหตุ เป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก ซึ่งไม่มีเจตนาอะไรนอกเหนือไปจากนี้ แต่ในขณะเดียวกันอาจเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ควบคุมห้องสอบ ที่ไม่รอบคอบปล่อยให้เด็กนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้องสอบได้ ซึ่งหน่วยงานจะสอบสวนถึงสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และมีการว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่ควบคุมห้องสอบเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

พล.ร.อ. ณรงค์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของมาตรการการคุมสอบ โดยปกติก็เข้มงวดอยู่แล้ว แต่เนื่องจากมีจำนวนเด็กเข้าสอบเป็นแสนคน และมีศูนย์สอบ 19 แห่งทั่วประเทศ อาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ซึ่งครั้งนี้ก็ผิดเฉพาะห้องสอบเดียวและเป็นเด็กเพียงรายเดียว ก็ถือว่ายอมรับได้ แต่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต เพราะจะส่งผลเสียต่อตัวเด็กเอง