Skip to main content

ความหมายของหลายสิ่งหลายอย่างในโลกยุคปัจจุบันเราสามารถหาได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ถามเอาจาก Google สารพัดสิ่งที่เราสงสัยก็จะปรากฎมาให้เราเลือกอ่านได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งเช่นเดียวกัน ถ้าจะหาความหมายของคำว่า Cosplay ก็คงมีขึ้นมาให้เลือกอ่านด้วยเหมือนกัน แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่า Cosplay จริงๆไม่ใช่เพียงคำนิยาม...

Cosplay มีรากศัพท์มาจากคำว่า Costume ที่แปลว่าเสื้อผ้า  กับPlayที่แปลว่าเล่น เมื่อเอาสองคำมารวมกันก็จะได้ความหมายว่า การใส่เสื้อผ้าเล่นๆ ดังนั้นใครที่ใส่เสื้อผ้าเล่นๆเพื่อความสนุกสนาน ไม่ว่าจะเพียงแค่หยิบหูแมวมาใส่ ใส่ชุดเมด ชุดตำรวจ (ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอาชีพนี้) เพื่อความสนุก ก็ล้วนถือเป็นการแต่ง  Cosplay  ได้เหมือนกัน แต่ยิ่งนานวัน คำว่า  Cosplay ก็เริ่มกระจายไปทั่วโลกมากขึ้น เมื่อนิยามศัพท์นี้ไปอยู่ในประเทศอื่น บริบทอื่น วัฒนธรรมอื่น ก็ย่อมถูกแปลความหมายผิดเพี้ยนไปตามกาลเวลาด้วยเช่นเดียวกัน อย่างเมื่อคำว่า  Cosplay มาอยู่ในสังคมไทยที่มีคนจำนวนไม่น้อยได้อิทธิพลมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น คนไทยส่วนใหญ่จึงเข้าใจความหมายของ Cosplay ว่ามันคือการแต่งตัวเลียนแบบการ์ตูนญี่ปุ่นนั้นเอง ซึ่งในความเป็นจริง  Cosplay  ไม่ใช่เพียงแต่งเลียนแบบจากการ์ตูนเท่านั้น ไม่ว่าจะเกมส์ หนัง หรือแม้แต่แต่งตัวเลียนแบบคนดัง ทั้งหมดทั้งปวงก็ล้วนคือการแต่ง Cosplay ด้วยกันทั้งสิ้น และเมื่อมีคนส่วนมากเหมารวมOtakuกับCosplay เข้าด้วยกัน ยิ่งทำให้ความหมายของทั้งสองยิ่งซับซ้อนและผิดเพี้ยนกันไปใหญ่

กลุ่ม Cosplay บนเวที Desucon Frostbite 2014 ที่ฟินแลนด์ : ภาพจาก wikimedia.org

Otaku มีความหมายที่แท้จริงว่า บุคคลที่ชอบและคลั่งไคล้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งสุดๆ หรือถ้าจะให้แปลเป็นไทยว่า แฟนพันธ์แท้ก็คงจะไม่ผิด แต่คนส่วนมากมักไม่เข้าใจความหมายที่แม้จริง จึงเหมารวมเข้าด้วยกันไปแบบผิดๆ  แม้โอตาคุและคอสเพลย์จะมีพื้นฐานความชอบริเริ่มมาจากการ์ตูน เกม หรือหนังเหมือนกัน แต่พวกเขาทั้งสองก็ยังถือว่ามีงานอดิเรกต่างกันอยู่ดี เหมือนแฟนพันธ์แท้หมากรุกกับหมากกระดาน แม้จะเป็นการเดินหมากเหมือนกันแต่ก็คนล่ะศาสตร์และคนล่ะงานอดิเรก  แต่ก็เคยมีคนตอบกลับมาอีกว่า "ก็พวกบ้าการ์ตูนเหมือนกันนั่นแหละ เห็นคุยกันรู้เรื่อง" อาจจะถูกที่พวกเขามีพื้นฐานความชอบเหมือนกันเลยอาจจะคุยกันถูกคอ แต่แท้จริงแล้วจะมีสักกี่คนที่รู้ว่าจริงๆแล้วที่พวกเขาพูดคุยได้อย่างสนิทใจนั้น มีเหตุผลมาจากการที่พวกเขาเข้าใจหัวอกเดียวกันของคนที่ถูกสังคมส่วนมากกีดกันและมองเป็นตัวประหลาดต่างหาก ซึ่งนี่แหละจึงเป็นที่มาว่า ทำไม Cosplay ในประเทศไทย  ถึงถูกสังคมส่วนมากกีดกันและแบ่งแยก พร้อมมองว่าพวกเขาต่างจากคนปกติ จนพวกเขาต้องกลายเป็น คนชายขอบ  อย่างไม่ได้ตั้งใจไปโดยปริยาย

คนชายขอบ คือ บุคคลหรือกลุ่มคนที่ถูกสังคมส่วนใหญ่ปฎิเสธ หรือถูกมองว่าแปลกแยกจากสังคมกระแสหลัก  เมื่อว่าถึงตรงนี้แล้ว คงจะสังเกตุได้ว่า ในโลกเรามีหลายบุคคลหรือกลุ่มคนที่ถูกมองว่าเป็นคนชายขอบอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย เช่น กลุ่มรักร่วมเพศ ชาวอินเดียนแดง  ซึ่งสำหรับประเทศไทย  Cosplay ก็ถูกเหมารวมเป็นคนชายขอบไปด้วย ในแบบที่แม้แต่คนในประเทศบางคนก็ยังไม่รู้

Cosplay ของ Yuna ที่ FanimeCon 2014 : ภาพจาก wikimedia.org

คนทั่วไปในสังคมไทยเราส่วนมากนั้นมักจะไม่ชอบความยุ่งยาก ชอบที่อะไรที่เข้าใจง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ซึ่งค่านิยมแบบนี้เองที่ทำให้การกระทำของ Cosplay ในสายตาคนส่วนมากเป็นอะไรที่เข้าใจได้ยาก คนส่วนใหญ่มักจะมองว่า  Cosplay ทำไมชอบแต่งตัวตามการ์ตูนนัก อะไรจะบ้าขนาดนั้น? หรือแม้แต่บางคนที่ลงทุนไปตัดชุด  เพียงเพื่อเอาไว้แต่ง Cosplay แค่ชุดเดียวก็หมดไปหลายพัน ซึ่งคนส่วนมากมองว่า มันเป็นการสิ้นเปลื้องโดยใช่เหตุ หรือหนักหน่อย คือบางคนหน้าตาไม่ดี แต่ดันไปแต่ง Cosplay คนส่วนมากก็มองอีกว่าไม่เข้าบ้างล่ะ สู้คนที่น่ารักๆแต่งก็ไม่ได้บ้างล่ะ เพราะคนส่วนมากมองว่าCosplay เข้าใจยากนี่แหละ ผู้คนจึงมองว่ามันประหลาด พอมองว่ามันประหลาดและไม่เคยคิดที่จะทำความเข้าใจเลยเป็นเหตุทำให้ ชาว Cosplayต้องกลายเป็นคนแปลกแยกหรือคนชายขอบไปแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวนั้นเอง  แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้ซับซ้อนขนาดที่หลายคนเข้าใจ เพียงตัดทุกข้อสงสัยและมองในมุมกลับกัน คุณก็จะพบบางสิ่งที่คุณอาจจะไม่เคยรู้...

ลองตัดทุกอคติ และลองมองเพียงว่า Cosplay ก็คืองานอดิเรกชนิดหนึ่งที่มีเพียงคนบางกลุ่มชอบและใจรักในงานอดิเรกนั้นมากๆ เหมือนที่คนทุกคนย่อมมีงานอดิเรกเป็นของตนเอง ทุกคนย่อมมีงานอดิเรกไม่เหมือนกัน บางคนมีงานอดิเรกชอบอ่านหนังสือ  บ้างชอบเล่นกีฬา บ้างชอบเล่นอินเตอร์เน็ต ต่างหลากหลายความชอบหลากหลายงานอดิเรก  Cosplay ก็เป็นเพียงงานอดิเรกที่มีคนชอบอยู่จำนวนไม่น้อย

จากกระแสสังคมที่ทั้งเรียน ทำงาน หรือสภาพแวดล้อมที่หนักหนาในทุกๆวัน การมีงานอดิเรกที่คอยไว้ผ่อนคลายยามอ่อนล้านั้น ใครๆก็อยากมี  Cosplay จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานอดิเรกชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง ถ้าใครกำลังมองว่า Cosplay ประหลาด นั่นก็คงหมายความว่าคุณก็กำลังดูถูกงานอดิเรกของคุณทางอ้อมด้วยเหมือนกัน...