Skip to main content

สืบเนื่องจากเพจเฟซบุ๊คของศูนย์กลางนิสิต นักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ได้แชร์เรื่องราวการถูกข่มขู่ของ ‘นัชชชา กองอุดม’ นักศึกษา ม.กรุงเทพฯ จากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบหลังจากเดินทางกลับจากการเข้าพบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

นัชชชา (เสื้อขาว) ขณะยื่นโพสต์เตอร์ประท้องคณะกรรมการสิทธิฯ 

12 ธ.ค. 2557 เมื่อเวลา เมื่อ 20.53 น. เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ศูนย์กลางนิสิต นักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย’ หรือ ศนปท. โพสต์ว่า  "เรื่องนี้ต้องมีคำตอบ"
เวลาประมาณ 11.30 น. หลังจากการเข้าพบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : นักศึกษาดาวดินและศนปท. ชูสามนิ้วหน้า ปธ.คณะกรรมการสิทธิฯ จี้ "กสม อยู่ไหนเมื่อปืนมา!") ระหว่างเดินทางกลับพร้อมกับนักข่าวและตัวแทนคณะกรรมสิทธิมนุษยชนอีกจำนวนหนึ่ง คุณนัชชชา กองอุดม ได้สังเกตเห็นผู้ชาย2คนที่เธอรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี และคาดว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่คราวติดตามเธอได้สักระยะแล้ว เธอจึงเดินไปถามว่า

"พี่มาทำอะไรค่ะ ตามหนูมาตลอดเลย"

เชื่อหรือไม่ว่า สิ่งที่ตอบมา ทำให้ตัวแทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและตัวแทนนักข่าวกว่า 10 คนถึงกับอึ้ง เพราะสิ่งที่ได้ยินคือ

"ก็ตามมาข่มขืนน้องไง"

และตอนนี้คุณนัชชชาได้ทำการแจ้งความแล้วที่ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อเวลา 15.30 น. พร้อมกับรูปชายคนดังกล่าวจากนักข่าว พร้อมพยานแน่นหนา และเราหวังว่า"เรื่องนี้ต้องมีคำตอบ" เพราะการกระทำนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ อีกทั้งเป็นการกระทำที่อุกอาด เพราะเป็นการกระทำต่อหน้าตัวแทนคณะสิทธิมนุษยชนและนักข่าวเกือบ 10 ชีวิต อีกทั้งเป็นการกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐนอกเครื่องแบบที่กระทำต่อคุณนัชชชา การกระทำนี้เป็นการส่งสัญญาณว่า ระดับสิทธิมนุษยชนภายใต้เผด็จการ ตกต่ำลงอย่างยิ่ง เพราะมีการกระทำที่อหังการไร้ยางอายได้เพียงนี้และเราจะไม่หยุดหาคำตอบจนกว่าจะมีผู้ที่รับผิดชอบในการกระทำดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของคุณนัชชชา กองอุดม

โดยทาง ‘เว็บไซต์เด็กหลังห้อง’ จึงได้สัมภาษณ์ ‘นัชชชา’ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้

นัชชชา

เด็กหลังห้อง : ความรู้สึกหลังจากการถูกข่มขู่เป็นอย่างไร?

นัชชชา : ค่อนข้างกลัว เพราะการข่มขู่ดูยกระดับขึ้นนอกเหนือจากการติดตาม ยังเพิ่มเป็นการข่มขืน เหมือนเป็นการยั่วยุให้โกรธทางหนึ่ง

การเคลื่อนไหวต่อจากนี้ จะทำอะไรบ้าง? 

ยืนยันจะเคลื่อนไหวต่อไป เพราะเราอยู่ในที่สว่าง แต่จะระมัดระวังมากขึ้น และสิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง แม้เป็นเสียงเล็กๆน้อยๆแต่ก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย วางแผนจะลงพื้นที่มากขึ้น เพราะปกติเป็นนักเคลื่อนไหวเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ไม่ใช่นักรัฐศาสตร์ แต่สนใจมุมมองของประชาชนและเรื่องปากท้องของชาวบ้านมากกว่า

มีอะไรฝากถึงเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ?

เคยชินกับการถูกติดตามเป็นปกติทุกวัน แม้กระทั่งโทรศัพท์ก็เหมือนมีเครื่องดักฟัง ก็อยากให้คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนของประชาชน ตอนนี้เกิดรัฐประหารไปแล้วคงไม่ต้านอะไร นอกจากจะเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก เพื่อคืนเสรีภาพขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชน